AWS เปิดตัว Amazon Q ผู้ช่วยที่ขับเคลื่อนด้วย Generative AI สำหรับการพัฒนาซอฟต์แวร์และใช้ประโยชน์จากข้อมูลภายในองค์กร

บริษัท อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (Amazon Web Services: AWS) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Amazon.com, Inc. (NASDAQ: AMZN) ได้ประกาศความพร้อมใช้งานทั่วไปของ Amazon Q ซึ่งเป็นผู้ช่วยที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) เพื่อช่วยในการพัฒนาซอฟต์แวร์และใช้ประโยชน์จากข้อมูลภายในองค์กร

Amazon Q ไม่เพียงแต่สร้างโค้ดที่มีความแม่นยำสูงเท่านั้น แต่ยังสามารถทดสอบ แก้ไขจุดบกพร่อง และมีความสามารถในการวางแผนและการใช้เหตุผลหลายขั้นตอนที่สามารถเปลี่ยนแปลง (เช่น อัปเกรดเวอร์ชัน Java) และใช้โค้ดใหม่ที่สร้างขึ้นจากคำสั่งของนักพัฒนาได้ นอกจากนี้ Amazon Q ยังช่วยให้พนักงานสามารถหาคำตอบเกี่ยวกับข้อมูลทางธุรกิจได้ง่ายขึ้น เช่น นโยบายของบริษัท ข้อมูลผลิตภัณฑ์ ผลการดำเนินงาน ฐานข้อมูลโค้ด ข้อมูลพนักงาน และหัวข้ออื่น ๆ อีกมากมายโดยการเชื่อมต่อกับที่เก็บข้อมูลขององค์กรเพื่อสรุปข้อมูลอย่างมีเหตุผล วิเคราะห์แนวโน้ม และสนทนาเกี่ยวกับข้อมูลนั้น ๆ

AWS ยังเปิดตัว Amazon Q Apps ซึ่งเป็นความสามารถใหม่และมีประสิทธิภาพที่ช่วยให้พนักงานสามารถสร้างแอป Generative AI ต่าง ๆ โดยการใช้ข้อมูลของบริษัทได้ พนักงานเพียงแค่อธิบายประเภทของแอปที่ต้องการด้วยภาษาธรรมชาติและ Q Apps จะสร้างแอปตามที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้พวกเขาสามารถจัดการและทำให้งานที่ทำเป็นประจำนั้นสามารถทำได้แบบอัตโนมัติอย่างง่ายดายและมีประสิทธิภาพ

ดร. สวามิ สิวะสุพรามาเนียน รองประธาน AI and Data ที่ AWS กล่าวว่า “Amazon Q เป็นผู้ช่วยที่ขับเคลื่อนด้วย Generative AI ที่มีความสามารถสูงสุดที่มีอยู่ในปัจจุบัน โดยมีความแม่นยำอยู่ในระดับชั้นนำของอุตสาหกรรม ความสามารถของ Agent ขั้นสูง และระบบการรักษาความปลอดภัยที่ดีที่สุด ซึ่งช่วยให้นักพัฒนามีประสิทธิภาพการทำงานมากขึ้น และช่วยให้ผู้ใช้งานทางธุรกิจสามารถตัดสินใจได้เร็วขึ้น นับตั้งแต่เราประกาศบริการนี้ในงาน re:Invent เราได้เห็นประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นที่นักพัฒนาและผู้ใช้ทางธุรกิจได้สัมผัสอย่างน่าประทับใจ ในช่วงแรกเรามองว่า Amazon Q สามารถช่วยให้พนักงานของลูกค้ามีประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้นกว่า 80% และด้วยฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่เราวางแผนจะเปิดตัวในอนาคต เราคิดว่าตัวเลขประสิทธิภาพนี้จะยังคงเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง”

Amazon Q Developer

ปัจจุบัน นักพัฒนาบอกเราว่าพวกเขาใช้เวลาเพียง 30% (หรือน้อยกว่า) ในการเขียนโค้ด ในขณะที่เวลาที่เหลือใช้ไปกับการทำงานที่ซ้ำซากและใช้เวลานาน ซึ่งอาจรวมถึงการค้นหาแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดจากเว็บ หรือเรียนรู้วิธีการทำงานผ่านการอ่านเอกสาร ฟอรัม และการสนทนากับเพื่อนร่วมงาน นักพัฒนายังต้องจัดการโครงสร้างพื้นฐานและทรัพยากร หาสาเหตุและแก้ไขข้อผิดพลาด และทำความเข้าใจต้นทุนการดำเนินงาน เมื่อพวกเขาเปลี่ยนโปรเจกต์ พวกเขาต้องใช้เวลาเรียนรู้ฐานโค้ดที่มีอยู่เพื่อทำความเข้าใจหลักการในการเขียนโปรแกรมนั้น ๆ นอกจากนี้ ยังมีการทดสอบและปรับโครงสร้างโค้ดใหม่ อัปเกรดแอปพลิเคชัน การดีบักและการปรับให้เหมาะสม และการรับรองความปลอดภัยโดยต้องทำการสแกนหาช่องโหว่และใช้การแก้ไขด้านความปลอดภัยที่เหมาะสมอย่างทันท่วงที บริษัทต่าง ๆ ต้องการช่วยให้นักพัฒนาใช้เวลาน้อยลงในการเขียนโค้ด และมีเวลามากขึ้นในการสร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับลูกค้า พร้อมกับสามารถใช้งานได้เร็วขึ้น

Q ช่วยนักพัฒนาและผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีในทุกงานตั้งแต่การเขียนโค้ด การทดสอบ และการอัปเกรดแอปพลิเคชัน ไปจนถึงการแก้ไขปัญหา การทำการสแกนและแก้ไขความปลอดภัย และการปรับให้ทรัพยากรของ AWS ทำงานได้ดียิ่งขึ้น Amazon Q มอบความสามารถด้าน Generative AI ขั้นสูงที่ปรับแต่งได้ตามความต้องการ ดังนี้

  • คำแนะนำการเขียนโค้ดที่แม่นยำที่สุด: Amazon Q ช่วยให้นักพัฒนาสร้างโค้ดได้เร็วขึ้นและปลอดภัยมากขึ้นด้วยการเสนอแนะโค้ดเกือบจะทันที (near real time) ลูกค้าอย่าง Blackberry, BT Group และโตโยต้า ต่างก็ใช้ Q เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของนักพัฒนาและเร่งนวัตกรรมในองค์กรของพวกเขา Amazon Q Developer มีอัตราการยอมรับโค้ดสำหรับผู้ช่วยที่ให้คำแนะนำโค้ดหลายบรรทัดที่สูงที่สุดในอุตสาหกรรม โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ BT Group เปิดเผยว่าพวกเขายอมรับคำแนะนำโค้ดของ Q ถึง 37% และธนาคารแห่งออสเตรเลียรายงานอัตราการยอมรับที่ 50% นอกจากนี้ Q ยังมีความสามารถในการปรับแต่งที่ทรงพลังซึ่งใช้ฐานโค้ดภายในของลูกค้าอย่างปลอดภัย เพื่อให้คำแนะนำโค้ดที่เกี่ยวข้องและมีประโยชน์มากขึ้น ด้วยความสามารถนี้ Q จึงเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเสนอแนะโค้ดและให้คำแนะนำที่เกี่ยวข้องเพื่อประหยัดเวลามากยิ่งขึ้น Q รักษาข้อมูลการปรับแต่งต่าง ๆ ไว้เป็นส่วนตัวทั้งหมด และโมเดลพื้นฐาน (Foundation Model: FM) ไม่ได้ถูกนำไปใช้ในการเทรนโมเดลซึ่งเป็นการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาอันมีค่าของลูกค้า
  • Amazon Q Developer Agents: Q มีความสามารถพิเศษที่เรียกว่า Agent ซึ่งสามารถทำงานต่าง ๆ ได้โดยอัตโนมัติ ตั้งแต่การใช้งานฟีเจอร์ต่าง ๆ การจัดทำเอกสาร และการปรับโครงสร้างโค้ด ไปจนถึงการดำเนินการอัปเกรดซอฟต์แวร์ นักพัฒนาสามารถขอให้ Amazon Q ใช้งานคุณฟีเจอร์ของแอปพลิเคชันได้ง่าย ๆ (เช่น ขอให้สร้างฟีเจอร์ “เพิ่มในรายการโปรด” ในแอปสำหรับการแชร์บนโซเชียล) และ Agent จะทำการวิเคราะห์โค้ดแอปพลิเคชันที่มีอยู่และสร้างแผนการใช้งานทีละขั้นตอน นักพัฒนาสามารถทำงานร่วมกับ Agent เพื่อตรวจสอบและทำซ้ำแผนก่อนที่ Agent จะนำไปใช้โดยเชื่อมโยงขั้นตอนต่าง ๆ เข้าด้วยกัน และใช้การอัปเดตกับไฟล์ต้นฉบับ บล็อกโค้ด และชุดทดสอบ ในการดำเนินงานเหล่านี้ Q ได้คะแนนสูงสุดของผู้ช่วยพัฒนาซอฟต์แวร์ที่มีอยู่ในปัจจุบัน โดยได้คะแนน 13.4% บน SWE-Bench Leaderboard และ 20.5% บน SWE-Bench Leaderboard (Lite) ซึ่งเป็นชุดข้อมูลที่ใช้วัดความสามารถในการเขียนโค้ด

เพื่อช่วยประหยัดเวลาหลายเดือนหรือหลายปีในการอัปเกรดแอปพลิเคชันของลูกค้า Q ยังสามารถทำให้กระบวนการอัปเกรดทั้งหมดเป็นแบบอัตโนมัติได้ด้วยการแปลง Java ที่พร้อมใช้งานในปัจจุบันและการแปลง .Net ที่จะมีให้เร็ว ๆ นี้ เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถย้ายจาก Windows ไปใช้ Linux ได้ ในสภาพแวดล้อมสำหรับการพัฒนาแบบเบ็ดเสร็จ (Integrated Development Environment: IDE) นักพัฒนาเพียงขอให้ Amazon Q “แปลง” โปรเจกต์ของตนและ agent จะวิเคราะห์ซอร์สโค้ดของแอปพลิเคชัน สร้างโค้ดใหม่ในภาษาหรือเวอร์ชันที่ต้องการ ดำเนินการทดสอบ และทำการเปลี่ยนแปลงโค้ดทั้งหมด ทีมงานห้าคนที่ Amazon ใช้ Q เพื่ออัปเกรดแอปพลิเคชันที่ใช้งานจริงมากกว่า 1,000 รายการจาก Java 8 เป็น Java 17 ในเวลาเพียงสองวัน (เวลาเฉลี่ยต่อแอปพลิเคชันน้อยกว่า 10 นาที) ช่วยประหยัดเวลาหลายเดือนและปรับปรุงประสิทธิภาพของแอปพลิเคชัน โดยก่อนหน้านี้แอปพลิเคชันเหล่านี้แต่ละรายการใช้เวลาถึง 2-3 วันในการอัปเกรด

  • การสแกนและแก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่ดีที่สุด: Q สแกนโค้ดเพื่อหาช่องโหว่ที่ตรวจพบได้ยาก เช่น ข้อมูลรับรองที่ถูกเปิดเผยและการแทรกบันทึก ด้วยการคลิกเพียงครั้งเดียว Q จะแนะนำการแก้ไขที่ปรับให้เหมาะสมกับโค้ดของแอปพลิเคชันโดยอัตโนมัติ ช่วยให้นักพัฒนาสามารถยอมรับการแก้ไขได้อย่างรวดเร็วด้วยความมั่นใจ ความสามารถในการสแกนความปลอดภัยของ Q มีประสิทธิภาพเหนือกว่าเครื่องมือชั้นนำต่าง ๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบันในการตรวจจับบนภาษาโปรแกรมที่นิยมใช้มากที่สุด ซึ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัยและคุณภาพโค้ดของแอปพลิเคชันของนักพัฒนาได้อย่างมาก
  • Q เป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับ AWS และปรับการใช้งาน AWS ของคุณให้เหมาะสม: Amazon Q Developer เป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับ AWS และอยู่ในคอนโซลเพื่อช่วยผู้เชี่ยวชาญด้าน IT ปรับการใช้งานคลาวด์ให้เหมาะสม รวมถึงวินิจฉัยและแก้ไขข้อผิดพลาดและปัญหาด้านเครือข่าย เลือกอินสแตนซ์ เพิ่มประสิทธิภาพการค้นหาด้วยภาษามาตรฐานในการเข้าถึงฐานข้อมูล (Structured Query Language: SQL) การดึงข้อมูลออกมาจากแหล่งข้อมูล การเปลี่ยนโครงสร้างข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบที่เราต้องการ การนำข้อมูลเข้าไปใส่ในระบบจัดเก็บข้อมูลปลายทาง (extract, transform, and load หรือ ETL) และให้คำแนะนำเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดทางสถาปัตยกรรม เพื่อช่วยลูกค้าเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานคลาวด์ของตนให้ดียิ่งขึ้น ในปัจจุบัน Amazon Q Developer ได้รวมฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้ลูกค้าเห็นรายการการใช้งาน AWS การกำหนดค่า และวิเคราะห์ข้อมูลการเรียกเก็บเงินและแนวโน้ม ทำให้ง่ายต่อการจัดการบัญชีของตน ตัวอย่างเช่น ผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีสามารถถามได้ง่าย ๆ ว่า “What instances are currently running in US East 1? หรือ “What’s my S3 bucket encryption?” หรือ “What were my EC2 costs by region last month?” และ Amazon Q Developer จะแสดงรายการการใช้งานและรายละเอียดในคำตอบที่สรุปมาพร้อมลิงก์เพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม

อินเทอร์เฟซการสนทนาของ Amazon Q สามารถใช้งานได้ทุกที่ที่ต้องการ ใน AWS Console ใน Slack หรือใน IDE รวมถึง Visual Studio Code และ JetBrains เพื่อให้นักพัฒนาสามารถใช้ประสบการณ์การสนทนาของ Q ในโซลูชันการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่พวกเขาชื่นชอบได้ และเพื่อขยายประสบการณ์การใช้งาน Q ไปยังพื้นที่ทำงานของนักพัฒนาให้มากขึ้น  AWS กำลังประกาศขยายบริการเพิ่มเติมกับพาร์ทเนอร์อย่าง Datadog และ Wiz และการผสานรวมกับ GitLab Duo ที่จะเสนออินเทอร์เฟซแบบรวมให้กับลูกค้าไม่ว่าจะทำงานบน AWS หรือ GitLab การผสานรวมความสามารถ Generative AI ของ Amazon Q เข้ากับโซลูชันที่นักพัฒนารู้จัก ใช้งาน และไว้วางใจ จะทำให้นักพัฒนาสามารถอัปเดตและสร้างซอฟต์แวร์ได้เร็วขึ้น

Amazon Q Business

องค์กรต่าง ๆ มีข้อมูลจำนวนมากที่กระจายอยู่ในเอกสาร ระบบ และแอปพลิเคชันต่าง ๆ พนักงานในทุกองค์กรและแผนกใช้เวลาหลายชั่วโมงต่อสัปดาห์ในการค้นหาข้อมูลจากแหล่งข้อมูลภายใน รวบรวมการวิเคราะห์ เขียนรายงาน วางแผนการนำเสนอ รวบรวมข้อมูลเชิงลึกจากแดชบอร์ด และปรับเนื้อหาให้เหมาะสมกับผู้ร่วมงานที่มาจากแผนกต่าง ๆ Generative AI สามารถช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ แต่บริการที่มีอยู่ในปัจจุบันไม่ได้เชื่อมต่อกับข้อมูลธุรกิจหรือทรัพยากรภายใน และไม่ได้สร้างขึ้นด้วยการคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลักตั้งแต่ต้น ซึ่งข้อจำกัดเหล่านี้ทำให้หลายองค์กรไม่สามารถใช้ประโยชน์จาก Generative AI ได้อย่างปลอดภัย

Q Business เป็นผู้ช่วยที่ขับเคลื่อนด้วย Generative AI ซึ่งสามารถตอบคำถาม สรุปเนื้อหา สร้างเนื้อหา และทำงานต่าง ๆ ให้เสร็จสิ้นอย่างปลอดภัยโดยอ้างอิงข้อมูลในระบบภายในขององค์กร ช่วยให้พนักงานมีความคิดสร้างสรรค์ ใช้ข้อมูลในการตัดสินใจ มีการเตรียมตัวที่ดี และมีประสิทธิภาพมากขึ้น 

  • Q รวมแหล่งข้อมูลได้มากกว่าผู้ช่วย Generative AI รายอื่น ๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน: Amazon Q Business สามารถเชื่อมต่อกับเครื่องมือทางธุรกิจที่ใช้กันทั่วไปมากกว่า 40 รายการได้อย่างง่ายดายและปลอดภัย เช่น วิกิ อินทราเน็ต Atlassian, Gmail, Microsoft Exchange, Salesforce, ServiceNow, Slack และ Amazon Simple Storage Service (Amazon S3) ซึ่งมากกว่าผู้ช่วย Generative AI รายอื่น ๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน เพียงชี้ Q ไปที่คลังข้อมูลขององค์กรมันจะทำการค้นหาข้อมูลทั้งหมด สรุปอย่างมีเหตุผล วิเคราะห์แนวโน้ม และมีการสนทนากับผู้ใช้เกี่ยวกับข้อมูลนั้น ๆ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลทั้งหมดได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดในองค์กรก็ตาม
  • Q Business ถูกสร้างขึ้นโดยคำนึงถึงความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว: Amazon Q Business ผสานรวมกับระบบระบุตัวตนของลูกค้า ขอบเขตความรับผิดชอบ และสิทธิ์การเข้าถึงที่มีอยู่เพื่อปรับประสบการณ์ให้เหมาะสมกับผู้ใช้แต่ละคนในขณะที่ยังคงรักษามาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดไว้ Q สร้างคำตอบที่แม่นยำจากข้อมูลขององค์กร และลูกค้าสามารถจำกัดหัวข้อที่ละเอียดอ่อน บล็อกคำที่ต้องการ และกรองเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมออกได้ Q ไม่ใช้เนื้อหาของลูกค้าในการเทรนโมเดลพื้นฐานให้กับผู้อื่น Amazon Q Business มีประสิทธิภาพเหนือกว่าผู้ช่วยรายอื่น ๆ ทั้งหมดที่ออกสู่ตลาดก่อนหน้านี้ ทั้งในด้านความถูกต้อง ความจริง และความเป็นประโยชน์สำหรับการถามตอบทั่วไป (โดยใช้ชุดข้อมูล MultiHop-RAG) รวมถึงชุดข้อมูลในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น ด้านการเงิน (โดยใช้ตัวอย่างชุดข้อมูล FiQA) และเทคโนโลยี (โดยใช้ตัวอย่างชุดข้อมูล LoTTE)
  • Generative BI ช่วยให้นักวิเคราะห์สร้างแดชบอร์ดที่มีรายละเอียดได้ในเวลาไม่กี่นาที และช่วยให้ผู้ใช้ทางธุรกิจได้รับข้อมูลเชิงลึกอย่างรวดเร็ว: Amazon Q นำเทคโนโลยี Generative AI ขั้นสูงมาใช้ใน Amazon QuickSight ซึ่งเป็นบริการ Business Intelligence (BI) แบบครบวงจรของ AWS ที่สร้างขึ้นสำหรับการใช้งานบนคลาวด์ ด้วย Amazon Q ใน QuickSight ลูกค้าจะได้รับผู้ช่วย Generative BI ที่ช่วยให้นักวิเคราะห์ธุรกิจใช้ภาษาธรรมชาติเพื่อสร้างแดชบอร์ด BI ได้ในเวลาไม่กี่นาที และสร้างการแสดงผลและการคำนวณที่ซับซ้อนได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ยังเป็นผลิตภัณฑ์ BI เดียวที่สามารถสรุปผลให้ผู้บริหารด้วยแดชบอร์ดที่ขับเคลื่อนด้วย AI สามารถถามคำถามเกี่ยวกับข้อมูลนอกเหนือจากสิ่งที่นำเสนอในแดชบอร์ด และสร้างข้อมูลที่ละเอียดและปรับแต่งได้โดยเน้นข้อมูลเชิงลึก แนวโน้ม และปัจจัยที่สำคัญ ผู้ใช้สามารถขอให้ “สร้างเนื้อหาสรุปเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจในเดือนที่ผ่านมาเพื่อการทบทวนแผนธุรกิจกับผู้บริหาร” และในไม่กี่วินาที Amazon Q จะสร้างเนื้อหาที่มีข้อมูลเชิงลึกและภาพประกอบที่เฉพาะเจาะจง รวมถึงแนวคิดเกี่ยวกับการปรับปรุงธุรกิจ ผู้ใช้สามารถเลือกจัดวางเนื้อหาที่ Q สร้างขึ้นในเอกสารหรือการนำเสนอที่สามารถแชร์ต่อได้ง่าย โดยสามารถปรับแต่งข้อความ รูปภาพ และธีมได้ จากนั้นใช้ Amazon Q เพื่อเขียนข้อความขึ้นใหม่หรือปรับปรุงข้อความเดิม
  • ความสามารถใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนที่ช่วยให้พนักงานทุกคนเปลี่ยนจากการสนทนาไปสู่แอปที่ขับเคลื่อนด้วย Generative AI ได้ภายในไม่กี่วินาที: วันนี้ AWS ประกาศความสามารถใหม่ของ Amazon Q Apps (อยู่ในช่วง Preview) Amazon Q Apps ช่วยให้พนักงานสามารถสร้างแอปที่ขับเคลื่อนด้วย Generative AI ได้โดยง่ายและรวดเร็วโดยอิงตามข้อมูลของบริษัทโดยไม่ต้องมีประสบการณ์ด้านการเขียนโค้ดมาก่อน ด้วย Q Apps พนักงานเพียงอธิบายแอปที่ต้องการด้วยภาษาธรรมชาติ หรือสามารถนำบทสนทนาที่มีอยู่ซึ่ง Amazon Q Business เคยช่วยแก้ปัญหามาก่อน และด้วยการคลิกเพียงครั้งเดียว Q จะสร้างแอปตามที่ต้องการได้ทันทีซึ่งสามารถแชร์ต่อภายในองค์กรได้อย่างง่ายดาย

ตัวอย่างเช่น การสร้างแผนการเตรียมความพร้อมสำหรับพนักงานใหม่อาจเป็นกระบวนการที่ใช้เวลานานและลำบาก ต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการค้นหาข้อมูลจากที่เก็บข้อมูลและเอกสารต่าง ๆ เพื่อหาเนื้อหาที่เหมาะสมสำหรับพนักงานใหม่ และบ่อยครั้งเนื้อหาที่พบอาจล้าสมัยหรือไม่เฉพาะเจาะจงเพียงพอสำหรับตำแหน่งหน้าที่นั้น ๆ ด้วยการใช้ Q พนักงานฝ่ายทรัพยากรบุคคลเพียงแค่บอกว่าต้องการแอปที่จะสร้างแผนการเตรียมความพร้อมสำหรับพนักงานใหม่ที่ใช้แนวปฏิบัติที่ดีที่สุดของบริษัทที่มีอยู่ และมีช่องใส่รหัสพนักงานที่ทำให้แผนการเตรียมความพร้อมมีความเหมาะสมตามตำแหน่งหน้าที่ โดยดึงข้อมูลภายในที่เกี่ยวข้องกับสายงานของพนักงาน ภายในไม่กี่วินาที Amazon Q Apps จะสร้างแอปที่สามารถสร้างแผนการเตรียมความพร้อมที่เหมาะสมกับพนักงานแต่ละคนตามตำแหน่งหน้าที่และแผนกได้โดยอัตโนมัติ จากนั้นพนักงานฝ่ายทรัพยากรบุคคลสามารถแชร์แอปนี้กับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการว่าจ้างภายในองค์กร เพื่อสร้างแผนการเตรียมความพร้อมสำหรับทีมของตนเองได้ทันที ด้วย Amazon Q Apps ตอนนี้ธุรกิจสามารถสร้างแอปได้อย่างง่ายดาย รวดเร็ว และปลอดภัย โดยอิงจากข้อมูลองค์กรเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพในการทำงาน

ความคิดเห็นของลูกค้าและพาร์ทเนอร์ที่ใช้ Amazon Q

GoDaddy ช่วยให้ผู้ประกอบการหลายล้านรายทั่วโลกเริ่มต้น เติบโต และขยายธุรกิจ Ed Sarausad ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายข้อมูลและการวิเคราะห์ของ GoDaddy กล่าวว่า “การใช้ Amazon Q ใน QuickSight ทำให้เราสามารถถามเกี่ยวกับข้อมูลธุรกิจของเราได้โดยไม่ต้องใช้แดชบอร์ดอยู่ตลอดเวลา ตัวอย่างเช่น ตอนนี้เราสามารถค้นหาและสำรวจความผิดปกติในผลการดำเนินงานของบริษัทได้ง่ายขึ้นมาก การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้กระบวนการทำงานของเราคล่องตัวขึ้นเท่านั้น แต่ยังยกระดับความสามารถในการวิเคราะห์ของเราอีกด้วย สิ่งที่เราตื่นเต้นมากที่สุดคือโอกาสในการปลดล็อกข้อมูลเชิงลึกด้วยคำถามที่มีความสำคัญและไม่เคยถามมาก่อน ซึ่งทำให้เราสามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็วและลึกซึ้งยิ่งขึ้น เป็นการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนรู้ข้อมูลของเรา”

ธนาคารแห่งชาติออสเตรเลีย (National Australia Bank: NAB) เป็นหนึ่งในสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในออสเตรเลีย Andrew Brydon หัวหน้าวิศวกรบริหารของธนาคารแห่งชาติออสเตรเลีย กล่าวว่า “ที่ NAB ทีมต่าง ๆ ในธนาคารรู้สึกตื่นเต้นกับการที่ Generative AI สามารถเปลี่ยนแปลงงานการทำงานของเราได้ และเราได้ใช้โซลูชันที่ยอดเยี่ยมใน Amazon Q Developer ซึ่งเป็นเครื่องมือขับเคลื่อนด้วย Generative AI ที่ทรงพลังสำหรับวิศวกรและนักพัฒนาของเรา เครื่องมือนี้ได้รวมอัลกอริธึมและเครื่องมือขั้นสูงเข้ากับกระบวนการพัฒนาของเราได้อย่างราบรื่นโดยให้ประโยชน์ที่ไม่เหมือนใคร เช่น ทำให้งานเสร็จเร็วขึ้น เพิ่มผลลัพธ์ และลดการทำงานซ้ำ ๆ จนถึงตอนนี้นักพัฒนาของเราได้ยอมรับการเสนอแนะโค้ดจาก Amazon Q Developer ถึง 50% และตัวเลขนี้ยังคงเพิ่มขึ้นตามการขยายการใช้งาน เราตั้งตารอที่จะเห็น Amazon Q Developer เสริมศักยภาพและสร้างแรงบันดาลใจให้วิศวกรของเราพัฒนาความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคต่อไป และมอบบริการที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้า”

Netsmart เป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยีชั้นนำสำหรับการดูแลในชุมชน Paul Snider รองประธานฝ่ายวิศวกรรมของ Netsmart กล่าวว่า “ความต้องการด้านการดูแลชุมชนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และ Amazon Q Developer ช่วยให้เราตอบสนองความต้องการนี้ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพและนวัตกรรมให้กับเรา Amazon Q Developer สามารถเปลี่ยนวิธีการทำงานของทีมวิศวกรของเราในการวิจัย ออกแบบ และการเขียนโค้ดได้ ตั้งแต่ใช้ Amazon Q Developer ทีมของเรามีอัตราการยอมรับการเสนอแนะโค้ดจาก Amazon Q Developer ถึง 35% ซึ่งช่วยให้วิศวกรของเราสามารถสร้างโค้ดและเอกสารที่มีคุณภาพสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ ซึ่งสามารถเร่งวงจรการพัฒนาและลดการทำงานด้วยตนเองได้อย่างมาก เราตื่นเต้นกับการเปลี่ยนแปลงที่Amazon Q Developer มีต่อกระบวนการพัฒนาของเรา”

Novacomp นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการด้านไอทีที่หลากหลาย โดยเชี่ยวชาญในด้านการทดสอบคุณภาพอัตโนมัติ บริการทดสอบซอฟต์แวร์ และการจ้างบุคลากรหรือองค์กรภายนอกในประเทศใกล้เคียง (Nearshore Outsourcing) Gerardo Arroyo รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยีของ Novacomp กล่าวว่า “การปรับปรุงแอปพลิเคชันที่ Novacomp ในอดีตเป็นงานที่ใช้เวลานานและมักถูกละเลยเมื่อเทียบกับโครงการพัฒนาอื่น ๆ ทีมของเราได้เลือกใช้ Amazon Q Code Transformation เพื่อช่วยอัปเกรดโปรเจกต์ที่ทำงานบน Java 8 เป็น Java 17 ซึ่งมีโค้ดมากกว่า 10,000 บรรทัด ซึ่งปกติแล้วจะต้องใช้เวลามากกว่าสองสัปดาห์ที่ทำด้วยตนเองจึงจะเสร็จสมบูรณ์ แต่ Amazon Q สามารถปรับปรุงโปรเจกต์ของเราได้อย่างราบรื่นในเวลาเพียงไม่กี่นาที นับตั้งแต่นำ Amazon Q มาใช้ในองค์กรเราพบว่าสามารถลดค่าใช้จ่ายด้านเทคโนโลยีโดยเฉลี่ยได้ถึง 60%”

Persistent Systems คือบริษัทผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีข้ามชาติที่สร้างซอฟต์แวร์ที่ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล Praveen Bhadada หัวหน้าฝ่าย Generative AI ของ Persistent Systems กล่าวว่า “Amazon Q Apps มีศักยภาพในการเปลี่ยนวิธีที่เราใช้ประโยชน์จาก Generative AI ตอนนี้เราสามารถทำให้ทุกคนในทีมสร้างและรวมแอปพลิเคชันได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องเขียนโค้ด ใช้แหล่งข้อมูลขององค์กรในขณะเดียวกันก็ปรับให้สอดคล้องกับข้อมูลส่วนตัว หน้าที่ความรับผิดชอบ และระดับการเข้าถึงหรือสิทธิ์ของผู้ใช้ที่มีอยู่”

Smartsheet เป็นซอฟต์แวร์ระดับองค์กรที่ให้บริการสำหรับการทำงานร่วมกันและการจัดการงาน Bani Bedi รองประธานอาวุโสฝ่ายการพัฒนาองค์กรและกลยุทธ์ของ Smartsheet กล่าวว่า “Amazon Q Business ได้ทำให้การจัดการความรู้และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานที่ Smartsheet เป็นไปอย่างรวดเร็ว ก่อนหน้านี้ พนักงาน 3,300 คนของเรามีความลำบากในการค้นหาข้อมูลที่ต้องการจากเอกสารต่าง ๆ หลักสูตรการฝึกอบรม และช่องทางช่วยเหลือของพนักงานทั้งหมดใน Slack หลายร้อยช่อง เราได้รวมความรู้ในองค์กรของเราไว้ในเครื่องมือ AI เดียวเพื่อให้พนักงานของเราได้รับคำตอบทันที ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้อย่างมาก ตอนนี้พนักงานสามารถแท็ก @AskMe ในช่องทาง Slack ใดก็ได้ ถามคำถาม แล้ว Amazon Q จะให้คำตอบทันที ซีอีโอของเราใช้ Amazon Q Business เพื่อขอคำตอบและทำการวิจัยโดยไม่ต้องรบกวนกระบวนการทำงานของพนักงาน เราทำทั้งหมดนี้ให้สำเร็จได้ภายในสองสามสัปดาห์โดยไม่ต้องเขียนโค้ดแม้แต่บรรทัดเดียว นอกจากนี้ ทีมวิศวกรของเรายังใช้ Amazon Q เพื่อสรุปสถานะเหตุการณ์ ระบุรายการที่ต้องทำ หาเอกสาร API และแก้ไขปัญหาทางเทคนิคได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อที่พวกเขาจะสามารถโฟกัสไปที่การมอบผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยมให้กับลูกค้าได้”

Sun Life เป็นองค์กรให้บริการทางการเงินชั้นนำในระดับนานาชาติ Laura Money รองประธานบริหารและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายนวัตกรรมเทคโนโลยีและข้อมูลของ Sun Life กล่าวว่า “เรากำลังใช้ประโยชน์ของ Generative AI ร่วมกับ AWS เพื่อช่วยให้บุคลากรของเราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และมอบประสบการณ์ดิจิทัลที่เหนือกว่าให้กับลูกค้าของเรา การนำ Amazon Q Apps มาใช้จะช่วยให้ทีมของเราสร้างโซลูชันที่ปลอดภัยและราบรื่นซึ่งสร้างมูลค่าและความแตกต่างในธุรกิจของเรา ตัวอย่างเช่น การเพิ่มศักยภาพให้ทีมในการเข้าถึง Amazon Q ด้วยการคลิกเพียงไม่กี่ครั้งจะทำให้กระบวนการสร้างและการแชร์แอปพลิเคชันที่ปรับแต่งตามความต้องการของพวกเขาเป็นไปได้อย่างง่ายดาย”

Toyota Connected North America เป็นผู้นำการพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลบนคลาวด์ของโตโยต้าที่ชื่อ Connected Mobility Intelligence Platform โดย Dave Tsai รองประธานฝ่ายวิศวกรรมของ Toyota Connected North America กล่าวว่า “โตโยต้ามุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์ดิจิทัลที่ยอดเยี่ยมและดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เราตระหนักว่าเราจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการตรวจสอบแพลตฟอร์มของเราให้ละเอียดยิ่งขึ้น ประเมินสถาปัตยกรรม ค่าใช้จ่ายด้านเทคโนโลยี และการอัปเกรดที่จำเป็น รวมถึงโค้ด 4GL ที่ล้าสมัยของเรา โดย Amazon Q Business ให้ข้อมูลเชิงลึกแก่ทีมของเราในด้านที่ต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการประเมินค่าใช้จ่ายด้านเทคโนโลยีของเราได้ถึง 25% ด้วยความสามารถในการแปลงโค้ดของ Amazon Q Developer เรามุ่งหวังที่จะใช้ประโยชน์จากความสามารถของ Generative AI ที่เพิ่มขึ้นเพื่อเร่งการอัปเกรดแอปพลิเคชันและบริการได้ถึง 30%”


เกี่ยวกับอะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส

ตั้งแต่ปี 2549 เป็นต้นมา อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (Amazon Web Services: AWS) เป็นผู้ให้บริการคลาวด์ที่ครอบคลุมและกว้างขวางที่สุดในโลก AWS ขยายการให้บริการอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการทำงานบนคลาวด์ทุกรูปแบบ ซึ่งในปัจจุบันมีบริการอย่างเต็มรูปแบบกว่า 240 รายการ สำหรับการคำนวณ การจัดเก็บข้อมูล ฐานข้อมูล ระบบเครือข่าย การวิเคราะห์ การเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning: ML) และปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) อินเตอร์เน็ตในทุกสิ่ง (Internet of Things: IoT) โทรศัพท์มือถือ การรักษาความปลอดภัย ไฮบริด เทคโนโลยีโลกเสมือนจริง (Virtual Reality: VR) และการรวมวัตถุเสมือนเข้ากับสภาพแวดล้อมจริง (Augmented Reality: AR) สื่อและการพัฒนาแอปพลิเคชัน การใช้งาน และการจัดการจาก 105 Availability Zones (AZs) ใน 33 ภูมิภาค พร้อมประกาศแผนสำหรับ Availability Zones เพิ่มเติมอีก 18 แห่ง และ AWS Regions อีกหกแห่งในมาเลเซีย เม็กซิโก นิวซีแลนด์ ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ไทย และภูมิภาคยุโรป (AWS European Sovereign Cloud) ลูกค้ากว่าล้านรายรวมไปถึงสตาร์ทอัพที่เติบโตอย่างรวดเร็ว องค์กรขนาดใหญ่ และหน่วยงานภาครัฐ ต่างเชื่อมั่นใน AWS ในการขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานของพวกเขาให้มีความคล่องตัวมากขึ้นและมีต้นทุนที่น้อยลง เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ AWS ได้ที่ aws.amazon.com

เกี่ยวกับ Amazon

Amazon ใช้หลักการ 4 ประการในการดำเนินงาน ได้แก่ ความหลงใหลในความต้องการของลูกค้ามากกว่าการมุ่งเน้นไปที่คู่แข่ง ความหลงใหลในการประดิษฐ์ ความมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศในการดําเนินงาน และการคิดระยะยาว Amazon มุ่งมั่นที่จะเป็นบริษัทที่ให้ความสำคัญกับลูกค้ามากที่สุดในโลก เป็นบริษัทนายจ้างที่ดีที่สุดในโลก และสถานที่ทํางานที่ปลอดภัยที่สุดในโลก ความคิดเห็นของลูกค้า, การซื้อของในคลิกเดียว, คําแนะนําเฉพาะบุคคล, ไพรม์ , Fulfillment by Amazon, AWS, Kindle Direct Publishing, Kindle, Career Choice, Fire tablets, Fire TV, Amazon Echo, Alexa, Just Walk Out technology, Amazon Studios และ The Climate Pledge เป็นเพียงบางอย่างที่บุกเบิกโดย Amazon สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเยี่ยมชมได้ที่ amazon.com/about และติดตามได้ที่ @AmazonNews