Ryzen AI Max+ LLama 4
|

AMD ปลดล็อกพลัง AI PC: Ryzen AI Max+ รัน LLM ขนาด 128B บน Windows ได้แล้ว ผ่านไดรเวอร์ใหม่

AMD ได้สร้างปรากฏการณ์อีกครั้งในวงการ AI PC ด้วยการประกาศอัปเกรดครั้งสำคัญที่ทำให้หน่วยประมวลผล (APU) ซีรีส์ Ryzen AI Max+ สามารถรัน Large Language Models (LLM) ที่มีขนาดใหญ่ถึง 128 พันล้านพารามิเตอร์ บนระบบปฏิบัติการ Windows ได้โดยตรง ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญที่ผลักดันให้แล็ปท็อปแบบบางเบา (Thin and Light) มีศักยภาพในการประมวลผล AI ระดับสูงเทียบเท่ากับฮาร์ดแวร์ในดาต้าเซ็นเตอร์

การอัปเกรดครั้งนี้เกิดขึ้นผ่านไดรเวอร์ AMD Software: Adrenalin Edition 25.8.1 WHQL ที่กำลังจะปล่อยออกมาในเร็ว ๆ นี้ โดยหัวใจสำคัญคือการปรับปรุงเทคโนโลยี Variable Graphics Memory (VGM) ที่ช่วยให้ APU สามารถดึงหน่วยความจำหลักของระบบ (System RAM) มาใช้เป็นหน่วยความจำสำหรับกราฟิก (VRAM) ได้อย่างยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ปลดล็อกศักยภาพสูงสุดด้วย RAM ขนาดมหึมา

บนเครื่องแล็ปท็อปที่ใช้ APU AMD Ryzen AI Max+ 395 และติดตั้งหน่วยความจำขนาด 128GB เทคโนโลยี VGM ที่ได้รับการอัปเกรดจะสามารถจัดสรรหน่วยความจำสูงสุดถึง 96GB ให้กับ GPU ในตัวได้ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การรันโมเดลภาษาขนาดใหญ่ที่ต้องการหน่วยความจำเป็นจำนวนมหาศาลกลายเป็นความจริง

ความสามารถนี้ทำให้ AMD Ryzen AI Max+ 395 (รุ่น 128GB) กลายเป็น หน่วยประมวลผลสำหรับ AI PC บน Windows ตัวแรกของโลก ที่สามารถรันโมเดล Meta Llama 4 Scout ซึ่งมีพารามิเตอร์รวมถึง 109 พันล้าน (109B) ได้อย่างเต็มรูปแบบ รวมถึงรองรับความสามารถด้าน Vision และ Multi-Component Prompting (MCP)

สำหรับผู้ที่สนใจทดลอง สามารถดาวน์โหลดไดรเวอร์รุ่น Preview และโปรแกรม LM Studio มาทดลองใช้งานได้แล้ววันนี้

เบื้องหลังความสำเร็จที่ไม่ใช่แค่ NPU

ความสำเร็จของ AMD ในครั้งนี้ไม่ได้มาจากหน่วยประมวลผล AI (NPU) เพียงอย่างเดียว แต่เป็นการผสานพลังของสถาปัตยกรรมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น CPU, GPU และ NPU แต่ตัวแปรที่สำคัญที่สุดคือ “หน่วยความจำ”

  • Mixture-of-Experts (MoE) คือกุญแจ: โมเดล Llama 4 Scout 109B เป็นโมเดลแบบ MoE ซึ่งหมายความว่าแม้จะมีพารามิเตอร์ทั้งหมด 109 พันล้านตัวที่ต้องถูกโหลดไว้ในหน่วยความจำ แต่ในการประมวลผลแต่ละครั้ง จะมี “ผู้เชี่ยวชาญ” หรือพารามิเตอร์ที่ทำงานจริงเพียงประมาณ 17 พันล้านตัวเท่านั้น สิ่งนี้ทำให้แล็ปท็อปสามารถสร้างคำตอบ (Tokens) ได้ในอัตราที่น่าพอใจสูงถึง 15 โทเค็นต่อวินาที ซึ่งถือว่าเร็วมากสำหรับโมเดลขนาดนี้บนอุปกรณ์พกพา
  • Context Length คือ Game Changer: อีกหนึ่งปัจจัยที่มักถูกมองข้ามคือ Context Length หรือ “หน่วยความจำระยะสั้น” ของ AI โดยทั่วไปโปรแกรมอย่าง LM Studio จะตั้งค่าเริ่มต้นไว้ที่ 4,096 โทเค็น แต่ด้วยการอัปเกรดนี้ Ryzen™ AI Max+ 395 สามารถรองรับ Context Length ได้สูงสุดถึง 256,000 โทเค็น (เมื่อเปิดใช้งาน Flash Attention)
  • ทำไม Context Length ถึงสำคัญ? ลองนึกภาพว่าคุณสั่งให้ AI สรุปเอกสารงานวิจัยยาว 50 หน้า หาก Context Length มีขนาดเล็ก AI อาจจะจำเนื้อหาได้แค่ 2-3 หน้าแรก ทำให้การสรุปผลขาดความสมบูรณ์ แต่ด้วย Context Length ขนาดใหญ่ AI สามารถ “อ่าน” และจดจำข้อมูลทั้งหมดไว้ในบริบทเพื่อทำการวิเคราะห์ที่ซับซ้อนได้ เช่น การสืบค้นและสรุปข้อมูลจากฐานข้อมูลงานวิจัย ARXIV หรือการดึงข้อมูลรายงานทางการเงินจาก SEC EDGAR ซึ่งในการทดสอบต้องใช้ Context สูงถึง 19,000−22,000 โทเค็น

AMD กำหนดนิยามใหม่ของ “AI PC”

การประกาศครั้งนี้เป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนจาก AMD ในสงคราม AI PC ที่กำลังดุเดือด

  1. ขยับจากการตลาดสู่การใช้งานจริง: ที่ผ่านมาคำว่า “AI PC” มักจะถูกใช้ในเชิงการตลาดเพื่อโปรโมตฟีเจอร์เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เร่งความเร็วด้วย NPU แต่การที่ AMD ทำให้ผู้ใช้งานทั่วไป (ที่เป็น Power User หรือนักพัฒนา) สามารถรัน LLM ขนาดมหึมาได้บนเครื่องของตัวเอง ถือเป็นการยกระดับนิยามของ AI PC ไปสู่การเป็น “เครื่องมือสำหรับสร้างสรรค์และใช้งาน AI อย่างแท้จริง”
  2. ชูจุดเด่นด้าน Privacy และ Offline Capability: การรันโมเดล AI ขนาดใหญ่บนเครื่องของตัวเอง (Local Inference) หมายถึงข้อมูลของคุณจะไม่ถูกส่งขึ้นไปบนคลาวด์ เพิ่มความเป็นส่วนตัวสูงสุด และยังสามารถใช้งานได้แม้ไม่มีอินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็นจุดขายที่สำคัญสำหรับผู้ใช้งานที่กังวลเรื่องความปลอดภัยของข้อมูล
  3. เจาะกลุ่มนักพัฒนาและ Open Source: การทำงานร่วมกับแพลตฟอร์มยอดนิยมอย่าง LM Studio และไลบรารี llama.cpp แสดงให้เห็นว่า AMD เข้าใจและพร้อมสนับสนุนคอมมูนิตี้นักพัฒนาและผู้ใช้สาย Open Source ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลอย่างสูงในวงการ AI

สรุป

การอัปเกรดของ AMD Ryzen™ AI Max+ ในครั้งนี้ไม่ใช่เพียงแค่การเพิ่มตัวเลขสเปก แต่มันคือการทลายกำแพงข้อจำกัดทางฮาร์ดแวร์ และเปิดประตูสู่ยุคใหม่ที่ AI Agents หรือผู้ช่วย AI ส่วนตัวที่ทรงพลัง สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์บนแล็ปท็อปส่วนตัวของเรา AMD ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าพวกเขาเป็นผู้นำที่พร้อมจะผลักดันเทคโนโลยี AI บนแพลตฟอร์ม Windows ให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง และนี่คือสิ่งที่ทำให้ “AI PC” มีความหมายมากกว่าที่เคยเป็นมา

ข้อมูล: Ryzen AI Max+