AMD เปิดตัวการ์ดจอ Radeon RX 9070 XT และ Radeon RX 9070

ในที่สุด AMD ก็ได้ทำการเปิดตัวการ์ดจอ Radeon RX 9000 series อย่างเป็นทางการเสียที หลังจากที่เลื่อนการเปิดตัวมาตั้งแต่ช่วงงาน CES 2025 เมื่อเดือนมกราคม AMD ยังคงย้ำว่าเกมส่วนสำคัญของ AMD หรือเป็น DNA ของ AMD ด้วยเช่นกัน ดังนั้นจึงเห็นได้ว่าเทคโนโลยีของ AMD นั้นได้เข้าไปเป็นส่วนสำคัญของอุปกรณ์เล่นเกมอย่างมากมาย และปีนี้ก็คือว่าเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 25 ปีของ Radeon พร้อมกับการเปิดตัวสถาปัตยกรรม GPU ใหม่ RDNA 4

เป้าหมายของ RDNA 4

เป้าหมายหลักคือการนำประสบการณ์การเล่นเกมระดับ Enthusiast มาสู่เกมเมอร์ให้มากขึ้น โดยมุ่งเน้นที่การปรับปรุง Ray Tracing และ Machine Learning เพื่อรองรับการทำงานที่ต้องการประสิทธิภาพสูง การออกแบบ RDNA 4 เน้นที่เกมเมอร์เป็นหลัก เพื่อให้มั่นใจถึงประสิทธิภาพต่อราคาที่คุ้มค่า

สถาปัตยกรรม RDNA 4 พร้อม Compute Unit ใหม่ เร็วขึ้น 40%

ในสถาปัตยกรรม RDNA 4 มีการปรับปรุงที่สำคัญที่สุดคือการจัดการหน่วยความจำ (enhanced memory subsystem) ที่ช่วยให้การไหลเวียนของข้อมูลมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับงานด้าน Ray tracing ที่หลายคนมองว่าเป็นจุดอ่อนของการ์ดจอ Radeon รุ่นก่อนหน้า นอกจากนี้ยังมีมีการปรับปรุงการออกแบบ Scalar unit และเพิ่มเทคนิคการจัดสรรหน่วยความจำที่สามารถปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับเวิร์คโหลดประเภทต่าง ๆ (Dynamic registered allocation) เพื่อเพิ่ม IPC และประสิทธิภาพโดยรวม ทำให้ Compute Unit ใน RDNA 4 เร็วกว่า RDNA 3 ประมาณ 40%

การปรับปรุง Raytracing ใน RDNA 4

การปรับปรุงที่สำคัญที่สุดคือการเพิ่ม Ray intersection engine เป็นสองเท่าต่อ CU ซึ่งช่วยเพิ่ม throughput สำหรับ Ray box และ Ray triangle testing เป็นสองเท่า นอกจากนี้ยังมี Hardware block เฉพาะสำหรับ Ray transform และคุณสมบัติ Hardware accelerator ใหม่ที่เรียกว่า Bounty boxes ทำให้ RDNA 4 มี throughput ในการทำ Raytracing เพิ่มขึ้นประมาณสองเท่าเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า

การเร่งความเร็ว AI ใน RDNA 4

เพื่อตอบสนองต่อความต้องการด้านการประมวลผลเรื่อง AI ทาง AMD จึงได้ทำการปรับปรุงตัวเร่งความเร็ว AI ใน RDNA 4 ใหม่ ซึ่งถือว่าเป็น AI acceleration รุ่นที่สองที่อยู่ใน Radeon กราฟิก ทำให้ RDNA 4 พร้อมรองรับประสบการณ์ AI ล่าสุดสำหรับการเล่นเกม การสร้างคอนเทนต์ และรองรับแอปพลิเคชัน Generative AI ที่มากขึ้น สำหรับการปรับปรุงนี้รวมถึงการเพิ่ม math pipelines สำหรับการคำนวณของ AI และการรองรับ data types ใหม่ เช่น FP8 และการปรับปรุงในส่วนของ inference (การอนุมาณ)

เปิดตัว Radeon RX 9070 Series

Radeon RX 9070 series สร้างขึ้นเพื่อมอบทุกสิ่งที่จำเป็นสำหรับการเล่นเกมในระดับสูงด้วยหน่วยความจำ GDDR ขนาด 16GB และการปรับปรุงซอฟต์แวร์และไดรเวอร์ใหม่ที่รองรับ RDNA 4 ที่สามารถสร้างสมดุลใหม่สำหรับการเล่นเกมเมื่อเทียบกับการ์ดจอรุ่นก่อนหน้าที่มีจำนวนของทรานซิสเตอร์ในระดับใกล้เคียงกันอย่าง Radeon RX 7900 GRE

ในวันเปิดตัวรอบสื่อนี้ทาง AMD ก็ยังไม่ประกาศราคาอย่างเป็นทางการว่าเป็นเท่าไร เพียงแต่บอกว่าราคานั้นจะอยู่ระหว่าง RX 7900 XT ที่เป็นการ์ดระดับไฮเอนต์ กับ RX 7900 GRE ที่เป็นการ์ดตัวท็อปในระดับกลาง (อัปเดตล่าสุด RX 9070 XT ราคา 599 USD, RX 9070 ราคา 549๊ USD)

Radeon RX 9070 และ RX 9070 XT

Radeon RX 9070 มี compute units อยู่ที่ 56 หน่วย มี GPU Clock ที่สูงกว่า 2.5 GHz ใช้พลังงานเพียง 220 วัตต์ และให้ AI TOPS มากกว่า 1100 TOPS, ส่วน Radeon RX 9070 XT มี compute units 64 หน่วย มี GPU Clock สูงเกือบ 3 GHz ใช้พลังงานโดยรวมประมาณ 300 วัตต์ และให้ AI TOPS มากกว่า 1500 TOPS การ์ดจอทั้งสองรุ่นรองรับ PCI Gen 5 และ DisplayPort 2.1a และ HDMI 2.1b ที่เป็นมาตรฐานล่าสุดทำให้รองรับจอภาพความละเอียดสูงพร้อมอัตรารีเฟรชเรตที่สูงได้

ประสิทธิภาพของ Radeon RX 9070

เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ที่เปิดตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2020, RX 9070 เป็นตัวเลือกการอัปเกรดที่ยอดเยี่ยม โดยเอาชนะ Radeon RX 6800 XT ได้เกือบ 40% และเอาชนะคู่แข่งรุ่น 3080 ได้มากกว่า 25% ในขณะที่ใช้พลังงานเพียง 220 วัตต์ ที่ความละเอียด 4K, RX 9070 ให้การเล่นเกมที่เร็วกว่าโดยเฉลี่ย 21% เมื่อเทียบกับ RX 7900 GRE

ประสิทธิภาพของ Radeon RX 9070 XT

Radeon RX 9070 XT ให้ประสิทธิภาพในการเล่นเกมที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก เมื่อเทียบกับ RX 6900 XT โดยให้ประสิทธิภาพมากกว่า 50% ในการเล่นเกมปกติ (Raster) และเมื่อเปิดใช้ Raytracing และเมื่อเทียบกับ RX 7900 GRE รุ่นก่อนหน้า, RX 9070 XT ให้ประสิทธิภาพการเล่นเกมที่ดีกว่าโดยเฉลี่ย 42% ที่ 4K และ 38% ที่ 1440p

AMD Software: คุณสมบัติใหม่, ประสิทธิภาพ และเสถียรภาพ

ประสบการณ์ที่ดีจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีฮาร์ดแวร์ที่ทรงพลังทำงานควบคู่ไปกับซอฟต์แวร์ที่ยอดเยี่ยม ที่ผ่านมา AMD ได้ปลดล็อกประสิทธิภาพของฮาร์ดแวร์ได้โดยการใช้ซอฟต์แวร์ที่ผสานกันเพื่อมอบคุณสมบัติการทำงาน ประสิทธิภาพการทำงาน และเสถียรภาพการทำงานที่ยอดเยี่ยม

ในการออกแบบกราฟิก Radeon ที่ใช้สถาปัตยกรรม RDNA 4 ทาง AMD ได้ทำการออกแบบโดยใช้ AI เข้ามาช่วยการพัฒนาคุณสมบัติการทำงานต่าง ๆ ไปจนถึงคุณสมบัติของซอฟต์แวร์ และปรับปรุงกระบวนการตรวจสอบซึ่งเป็นการกำหนดมาตรฐานใหม่ ซึ่ง AMD มันใจว่าการ์ดจอรุ่นใหม่จะมาพร้อมกับไดรเวอร์ที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรม

AMD HYPR-RX: รวมเทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกมด้วย Radeon Graphics

AMD HYPR-RX คือชุดเทคโนโลยีอันทรงพลังจาก AMD ที่ออกแบบมาเพื่อยกระดับประสบการณ์การเล่นเกมของคุณให้เหนือไปอีกขั้น ด้วยการรวมเอาเทคโนโลยีล้ำสมัยต่าง ๆ เข้าไว้ด้วยกัน HYPR-RX ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพกราฟิก ลดความหน่วง และมอบภาพที่คมชัดสวยงาม เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์การเล่นเกมที่ราบรื่นและตอบสนองได้ดียิ่งขึ้น

HYPR-RX เปรียบเสมือนคลังแสงที่อัดแน่นไปด้วยอาวุธทรงประสิทธิภาพสำหรับเกมเมอร์ตัวจริง ฟีเจอร์หลักที่รวมอยู่ใน HYPR-RX ประกอบไปด้วย:

AMD Radeon™ Anti-Lag: สั่งการดั่งใจคิด ตอบสนองฉับไว

AMD Radeon™ Anti-Lag คือเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อลดอาการหน่วงของอินพุต (input lag) ซึ่งเป็นปัญหาที่นักเล่นเกมหลายคนต้องเผชิญ Input lag คือระยะเวลาที่เกิดความล่าช้าระหว่างการป้อนคำสั่งจากอุปกรณ์ควบคุม เช่น เมาส์และคีย์บอร์ด กับการแสดงผลบนหน้าจอ ยิ่งค่า input lag น้อยเท่าไหร่ การควบคุมในเกมก็จะยิ่งตอบสนองได้รวดเร็วและแม่นยำมากยิ่งขึ้น

Radeon Anti-Lag ทำงานโดยการลดระยะเวลาระหว่างที่เกมทำการสุ่มตัวอย่างการควบคุมของผู้ใช้และการแสดงผลลัพธ์บนจอภาพ เทคโนโลยีนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการความได้เปรียบในการแข่งขัน เพราะช่วยให้ทุกการเคลื่อนไหวและการตัดสินใจของคุณถูกส่งไปยังเกมอย่างทันท่วงที โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเกมแนว eSports ที่ต้องการความแม่นยำและความรวดเร็วในการตอบสนองสูง Radeon Anti-Lag จะช่วยให้คุณควบคุมเกมได้เฉียบคมยิ่งขึ้น

AMD Fluid Motion Frames 2.1 : เฟรมเรตพุ่งทะยาน ภาพลื่นไหลเหนือระดับ

AMD Fluid Motion Frames (AFMF 2.1) คือเทคโนโลยีสร้างเฟรมภาพรุ่นล่าสุดจาก AMD ที่ใช้พลังของ AI เข้ามาช่วยเพิ่มเฟรมเรตในเกมให้สูงขึ้นอย่างน่าทึ่ง AFMF ทำงานคล้ายกับเทคโนโลยีอัปสเกลภาพอื่นๆ แต่มีความพิเศษตรงที่ไม่จำเป็นต้องมีการปรับแต่งเกมเป็นพิเศษ ทำให้สามารถใช้งานได้กับเกมจำนวนมากที่รองรับ DirectX® 11 และ 12

AFMF จะทำการวิเคราะห์เฟรมภาพที่สร้างขึ้นโดย GPU และทำการแทรกเฟรมภาพเพิ่มเติมเข้าไป ส่งผลให้เฟรมเรตโดยรวมเพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด AMD เคลมว่า AFMF 2.1 สามารถเพิ่มเฟรมเรตได้สูงสุดถึง 2.5 เท่าเมื่อเทียบกับเวอร์ชันก่อนหน้า ด้วย AFMF 2.1 คุณจะสัมผัสได้ถึงภาพที่ลื่นไหลและสมูทมากยิ่งขึ้น แม้ในเกมที่ต้องการประสิทธิภาพกราฟิกสูง

นอกจากนี้ AFMF 2.1 ยังสามารถทำงานร่วมกับฟีเจอร์อื่นๆ ของ AMD Radeon™ Software Adrenalin Edition™ เช่น Radeon Chill และยังรองรับเกมที่ใช้ Vulkan และ OpenGL API อีกด้วย

AMD Radeon™ Super Resolution: คมชัดทุกรายละเอียด เพิ่มประสิทธิภาพให้เกมเก่า

AMD Radeon™ Super Resolution (RSR) คือเทคโนโลยีอัปสเกลภาพระดับไดรเวอร์ที่พัฒนาต่อยอดมาจาก AMD FidelityFX™ Super Resolution (FSR) RSR ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในเกมจำนวนมากที่ไม่มีเทคโนโลยีอัปสเกลภาพในตัว

เทคโนโลยี RSR ทำงานโดยการเรนเดอร์ภาพที่ความละเอียดต่ำกว่าความละเอียดหน้าจอจริง จากนั้นจึงใช้เทคโนโลยีอัปสเกลภาพเพื่อขยายภาพให้มีความละเอียดใกล้เคียงกับความละเอียดหน้าจอ ด้วยวิธีนี้ GPU จะทำงานน้อยลง ส่งผลให้เฟรมเรตเพิ่มสูงขึ้นโดยที่ยังคงรักษาคุณภาพของภาพให้อยู่ในระดับที่น่าพอใจ RSR เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเกมเก่า หรือต้องการเล่นเกมใหม่ ๆ บนฮาร์ดแวร์ที่ไม่แรงมากนัก ซึ่งตรงนี้การ์ดจอ Radeon รุ่นเก่าก็จะได้ประโยชน์ด้วย

AMD Radeon™ Boost: ปรับความละเอียดอัตโนมัติ เฟรมเรตไม่ตก

AMD Radeon™ Boost คือฟีเจอร์อัจฉริยะที่ช่วยเพิ่มเฟรมเรตในเกมโดยการปรับลดความละเอียดของภาพแบบไดนามิกในระหว่างการเล่นเกม Radeon Boost จะตรวจจับการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วบนหน้าจอ หากพบว่ามีการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว เช่น ในฉากแอ็กชันที่เข้มข้น เทคโนโลยีนี้จะทำการลดความละเอียดของภาพลงเล็กน้อย เพื่อเพิ่มเฟรมเรตและรักษาความลื่นไหลในการเล่นเกม

เมื่อการเคลื่อนไหวบนหน้าจอช้าลง หรืออยู่ในฉากที่ไม่ต้องการเฟรมเรตสูง Radeon Boost จะทำการคืนค่าความละเอียดของภาพกลับสู่ระดับปกติ ด้วยวิธีนี้ Radeon Boost จะช่วยให้คุณได้รับประสบการณ์การเล่นเกมที่ลื่นไหลอย่างต่อเนื่อง โดยที่คุณภาพของภาพโดยรวมยังคงอยู่ในระดับที่ยอมรับได้

AMD FidelityFX™ Super Resolution 4: มาตรฐานใหม่แห่งการอัปสเกลภาพ

AMD FidelityFX™ Super Resolution (FSR 4) FSR 4 ขับเคลื่อนโดย algorithm upscaling ที่ใช้ ML ใหม่ เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีกว่าการเรนเดอร์แบบ Native ในขณะที่ยังคงปรับปรุงประสิทธิภาพ ทาง AMD ได้พัฒนาสถาปัตยกรรม RDNA 4 และ algorithm FSR 4 เพื่อนำเกมเมอร์เข้าสู่โลกที่เต็มไปด้วยรายละเอียด, ความลื่นไหล และเฟรมเรตที่สูง คุณสมบัติที่สำคัญอย่างหนึ่งของ FSR 4 คือรองรับ FSR 3.1 ที่ใช้ในหลายเกมในปัจจุบัน สามารถอัปเกรดเป็น FSR 4 ได้ด้วยการสลับการใช้งานเพียงครั้งเดียวใน AMD Software

FSR 4 สามารถจับคู่การทำงานจากคุณภาพของ Native frames ในขณะที่เพิ่มประสิทธิภาพ ตัวอย่างเช่น ใน Warhammer Space Marine 2, FSR 4 ใน performance mode พร้อม frame generation สามารถเพิ่มเฟรมเรตได้ถึง 3.4 เท่า ในขณะที่ยังคงมีคุณภาพของภาพที่ดีเช่นเดียวกับการเรนเดอร์แบบ Native

ภาพด้านล่าง: แม้แต่ Native 4K mode ก็ยังประสบปัญหา pointy spires* ที่ด้านบนของอาคาร เนื่องจากความบางของมัน ในขณะที่ FSR 3.1 มีข้อจำกัดเดียวกัน ในขณะที่สร้างภาพที่นุ่มนวลกว่า โดยการใช้ประโยชน์จาก AI, FSR 4 สามารถสร้างรายละเอียดที่ดีในแต่ละภาพได้อย่างแม่นยำ

*อาการ “pointy spires” ในการเรนเดอร์ภาพเกม หมายถึง ปรากฏการณ์ที่วัตถุในเกม โดยเฉพาะวัตถุที่มีรูปทรงแหลมคม เช่น ยอดแหลมของอาคาร ต้นไม้ หรือเส้นผม แสดงผลออกมาเป็นหนามแหลมหรือยอดแหลมที่ผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริง มักเกิดขึ้นเมื่อระบบเรนเดอร์พยายามแสดงผลรายละเอียดของวัตถุที่มีความซับซ้อนสูง แต่มีข้อมูลไม่เพียงพอ หรืออัลกอริทึมในการเรนเดอร์มีข้อจำกัด

FSR ช่วยให้เกมเมอร์สามารถเล่นเกมที่ต้องการประสิทธิภาพกราฟิกสูงบนฮาร์ดแวร์ที่ไม่แรงมากนัก หรือสามารถเพิ่มเฟรมเรตในเกมที่เล่นอยู่แล้วเพื่อให้ได้ภาพที่ลื่นไหลยิ่งขึ้น FSR เป็นเทคโนโลยีอัปสเกลภาพที่มีคุณภาพสูงและใช้งานได้ง่าย ทำให้เป็นที่นิยมในหมู่นักพัฒนาเกมและเกมเมอร์ทั่วโลก

ผู้ใช้การ์ดจอ Radeon จะสามารถเพลิดเพลินกับเทคโนโลยี upscaling ด้วย AI ล่าสุดในกว่า 30 เกมทันทีที่เปิดตัว และคาดว่าจะมีการรองรับมากกว่า 75 เกมภายในสิ้นปีนี้

การปรับปรุง Media Engine ใน RDNA 4

Media engine ใน RDNA 4 ได้รับการปรับปรุงอย่างมากเพื่อปรับปรุงคุณภาพการเข้ารหัสด้วยบิตเรตที่ตำ เพื่อให้สตรีมเมอร์สามารถเล่นเกมไปพร้อมกับการถ่ายถอดสดด้วยการ์ดจอ Radeon ได้อย่างมั่นใจ การปรับปรุงคุณภาพของภาพนี้มาพร้อมกับ AMD noise suppression (ตัดเสียงรบกวน) และตัวเลือกอื่น ๆ อีกหลายรายการเพื่อช่วยให้สตรีมเมอร์ทำงานได้สะดวกขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการบันทึกภาพหน้าจอ และการตั้งค่าโอเวอร์เลย์ต่าง ๆ

AI และการสร้างคอนเทนต์

การ์ดจอ Radeon RX 9070 series สามารถใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติ AI ที่ทรงพลัง ในแอปพลิเคชันต่าง ๆ เพื่อเร่งความเร็วในการประมวลผล เมื่อเทียบกับการ์ดจอรุ่นก่อนหน้าอย่าง RX 7900 GRE, การ์ดจอ Radeon RX 9070 XT ใหม่นี้ ยังให้ความเร็วที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในการใช้งานแอปพลิเคชันด้าน Generative AI อีกด้วย ดูประสิทธิภาพได้จากรุปด้านล่าง

การปรับปรุงเวิร์คโฟลว์ของ Radeon GPU สำหรับ Generative AI โดยเฉพาะ

AMD ได้พัฒนาและปรับปรุงเวิร์คโฟลว์สำหรับ Generative AI ให้กับ Radeon GPU โดยเริ่มจากการนำโมเดล Generative AI พื้นฐานที่เป็น PyTorch ไปผ่าน AMD Optimizer และ Microsoft Olive offline tool chain เพื่อ ปรับแต่งให้ประมวลผลได้อย่างมีประสิทธิภาพบน Radeon GPU จากนั้น onyx model ที่ได้จะถูกอัปโหลดไปยัง AMD space และ Hugging Face และผู้ใช้ Radeon GPU สามารถดาวน์โหลดโมเดลที่ผ่านการปรับปรุงนี้ไปใช้งานต่อได้

สรุป

ปี 2025 นี้จะเป็นปีที่น่าตื่นเต้นสำหรับพีซีเกมเมอร์ ด้วยซีพียูประสิทธิภาพสูงอย่าง Ryzen 9000X3D รุ่นล่าสุด, Radeon RX 9000 GPUs และชุดของซอฟต์แวร์ใหม่ ๆ จากทาง AMD ที่จะช่วยปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้นกว่าที่เคยมีมา

อัปเดตราคาเริ่มต้น และวันวางจำหน่าย