NVIDIA เปิดตัวเทคโนโลยี DLDSR (Deep Learning Dynamic Super Resolution) เล่นเกมความละเอียดสูงบนจอ FHD ด้วย AI

ในปี 2014 ยุคของ GTX 900 Series เอ็นวิเดีย ได้เปิดตัวเทคโนโลยี DSR (Dynamic Super Resolution) ที่ช่วยให้เราสามารถปรับจอภาพให้มีความละเอียดสูงขึ้นมากกว่าค่าปกติของจอ เช่นจาก 1920×1080 สามารถปรับให้เป็น 3840×2160 หรือ 4K ได้ เป็นการเพิ่มความละเอียดโดยใช้อัตราตัวคูณต่าง ๆ ซึ่งจะแปรผันไปตามอัตราส่วนของจอภาพที่ใช้ด้วย

เทคนิคนี้กราฟิกการ์ดจะไปสร้างภาพที่มีความละเอียดสูงขึ้นไว้บนหน่วยความจำของตัวการ์ดแล้วจากนั้นจึงย่อขนาดของภาพลงมา (Downsample) ให้พอดีกับความละเอียดปกติของจอภาพอีกครั้ง ภาพที่ได้ในเวลานั้นก็มีทั้งดูดีขึ้น และดูเบลอก็มี ซึ่งก็แล้วแต่เกมและการปรับแต่งรายละเอียดปลีกย่อยภายในเกม

กระบวนการ DSR แบบเดิม

ในปี 2022 ที่เข้าสู่ยุคของ AI เอ็นวิเดียก็ได้นำเทคโนโลยี DSR มาปรับปรุงไปอีกขั้นด้วยการใส่เทคโนโลยีด้าน Deep Learning เพิ่มเติมเข้าไปจนกลายเป็น DLDSR หรือ Deep Learning Dynamic Super Resolution

ซึ่งเทคนิคนี้ช่วยให้กระบวนการ Samplepoint รวมถึงกระบวนการอื่น ๆ และ Downsample ทำงานได้ฉลาดขึ้นด้วยการประมวลผลของ Tensor Core (ซึ่งมันถูกใช้ใน DLSS และ DLAA ก่อนหน้านี้แล้ว) ทำให้ภาพที่ได้มีความคมชัดกว่าเทคโนโลยีแบบเดิม ที่สำคัญคือการประมวลผลด้วย Tensor Core มันจะช่วยลดภาระของ CUDA Core ในการประมวลผล ทำให้เราได้ภาพที่ละเอียดและเฟรมเรตไม่ตก (ในกรณีที่เล่นเกม) นอกจากนี้เอ็นวิเดียยังบอกอีกว่า DLDSR ที่ใช้ตัวคูณ 2.25 เท่า ให้ประสิทธิภาพที่ดีกว่า DSR ที่ใช้ตัวคูณ 4 เท่า

*** รายละเอียดการทำงานทั้งหมดของ DLDSR ทางเอ็นวิเดียยังไม่เปิดเผยในตอนนี้ หากมีความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไปครับ ***

หน้าจอสำหรับกำหนดค่าการทำงาน DLDSR

ดูภาพตัวอย่างของการใช้ DLDSR ได้จากลิงก์ https://www.nvidia.com/en-us/geforce/comparisons/nvidia-dldsr-ai-deep-learning-dynamic-super-resolution-prey-dldsr-ssrtgi-comparison-01/

DLDSR ใช้ได้เฉพาะกราฟิกการ์ดในตระกูล RTX เท่านั้น ส่วน GTX ก็ยังคงใช้ DSR แบบเดิมได้

เทคโนโลยี DLDSR จะมาพร้อมกับไดรเวอร์เวอร์ชันใหม่ที่จะเริ่มเปิดให้ดาวน์โหลดได้ในวันที่ 14 มกราคม 2022 สำหรับผู้ที่ใช้ GeForce Experience ก็จะได้รับการแจ้งเตือนและสามารถอัปเดตไดรเวอร์ผ่านตัวซอฟต์แวร์ได้โดยตรง

ในไดรเวอร์ใหม่ที่จะมานี้นอกจากคุณสมบัติ DLDSR เองแล้วทางเอ็นวิเดียยังได้เตรียมการทำงานอื่น ๆ ที่มาช่วยเสริมภาพที่ได้จาก DLDSR ให้ดียิ่งขึ้นไปอีก ได้แก่

• SSRTGI (Screen Space Ray Traced Global Illumination) หรือที่รู้จักกันทั่วไปในชื่อ “Ray Tracing ReShade Filter” ปรับปรุงแสงและเงาของภาพในเกมเพื่อให้มีความสมจริงมากยิ่งขึ้น
• SSAO (Screen Space Ambient Occlusion) เน้นการปรากฏของเงาใกล้กับจุดตัดของวัตถุ 3 มิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพแวดล้อมที่มีแสงน้อย/ในร่ม
• DOF แบบไดนามิก (Depth of Field) ใช้การเบลอสไตล์โบเก้โดยพิจารณาจากระยะใกล้ของวัตถุภายในฉาก ทำให้ภาพที่ได้จากเกมมีบรรยากาศเหมือนการรับชมภาพยนตร์

ข้อมูล nvidia.com