ในงาน CES 2020 ที่ผ่านมา NVIDIA ได้เปิดตัวการ์ดจอตระกูล GeForce RTX 50 Series ที่มาพร้อมกับสถาปัตยกรรม NVIDIA Blackwell ใหม่ล่าสุด ซึ่งจะมาเปลี่ยนโลกของเกมเมอร์และครีเอเตอร์ด้วยพลังแห่ง AI และการเรนเดอร์แบบ Neural Rendering
สถาปัตยกรรม Blackwell: ขุมพลังใหม่ที่ขับเคลื่อน AI
สถาปัตยกรรม Blackwell ของ NVIDIA ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับ Neural Rendering โดยเฉพาะ ซึ่งมีทรานซิสเตอร์มากถึง 92 พันล้านตัว ทำให้เป็น GPU สำหรับผู้บริโภคที่ทรงพลังที่สุดในปัจจุบัน ความล้ำหน้ารวมถึง:
- Tensor Cores รุ่นใหม่ รองรับ FP4 Precision เพื่อการประมวลผล AI ที่เร็วขึ้นและประหยัดหน่วยความจำ
- RT Cores ใหม่ที่เพิ่มอัตราการคำนวณเรย์-ไทรแองเกิลเป็นสองเท่า ช่วยให้การเรนเดอร์ Ray Tracing มีรายละเอียดที่ไม่เคยทำได้มาก่อน
- Shader Execution Reordering ที่ปรับปรุงใหม่ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของ Neural Shaders
จุดเด่นของการ์ดจอรุ่นใหม่นี้คือความเร็วที่เพิ่มขึ้นถึง 8 เท่าด้วยเทคโนโลยี DLSS 4 พร้อม Multi Frame Generation และการลดความหน่วงลงถึง 75% ด้วย NVIDIA Reflex 2 นอกจากนี้ยังมาพร้อม RTX Neural Shaders ที่จะยกระดับคุณภาพของกราฟิกไปอีกขั้น
Neural Rendering ยุคใหม่ของการสร้างภาพในเกม
การเรนเดอร์แบบ Neural Rendering ถือเป็นยุคใหม่ของคอมพิวเตอร์กราฟิก โดยการผสานเครือข่ายประสาทเทียมเข้ากับกระบวนการเรนเดอร์ ทำให้ได้ภาพที่สวยงามและมีประสิทธิภาพสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด เริ่มต้นจาก DLSS ที่ใช้เฟรมความละเอียดต่ำมาผ่านเครือข่ายประสาทเทียมเพื่อสร้างเฟรมความละเอียดสูง จนพัฒนามาถึง DLSS 4 ที่สามารถสร้างเฟรมทั้งหมดได้เอง พร้อมเข้าใจองค์ประกอบของฉาก ทั้งเงา การสะท้อน และการบดบังแสง ซึ่งทำให้สามารถแสดงความสมจริงได้ในทุกซีนที่เรนเดอร์ออกมา
หัวใจสำคัญของการ์ดจอรุ่นใหม่นี้คือชิป Blackwell ที่มีทรานซิสเตอร์มากถึง 92 พันล้านตัว นับเป็นการ์ดจอสำหรับผู้บริโภคที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยสร้างมา มาพร้อมกับ Tensor Cores รุ่นใหม่ที่รองรับการประมวลผลแบบ FP4 ช่วยให้ทำงานได้เร็วขึ้นและใช้หน่วยความจำน้อยลง
การ์ดจอรุ่นต่าง ๆ
NVIDIA เปิดตัวการ์ดจอรุ่นท็อป GeForce RTX 5090 และ 5080 ในวันที่ 30 มกราคม ตามด้วย RTX 5070 Ti และ 5070 ในเดือนกุมภาพันธ์ โดย RTX 5090 รุ่นท็อปสุดมาพร้อมแรม GDDR7 ขนาด 32GB CUDA Cores 21,760 คอร์ และ Ray Tracing Cores รุ่นที่ 4 จำนวน 170 คอร์ สามารถเล่นเกมระดับท็อปอย่าง Cyberpunk 2077 และ Alan Wake 2 ที่ความละเอียด 4K ด้วยเฟรมเรตสูงถึง 240FPS พร้อมเปิด Ray Tracing เต็มสูบ
ส่วน RTX 5080 นั้นเร็วกว่า RTX 4080 ถึง 2 เท่า มาพร้อมแรม GDDR7 ขนาด 16GB ให้แบนด์วิธสูงถึง 960 GB/วินาที เพิ่มขึ้น 34% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน
ทั้งนี้ RTX 5090 จะวางจำหน่ายในราคาเริ่มต้นที่ 1,999 ดอลลาร์สหรัฐ โดยจะมีทั้งรุ่น Founders Edition จาก NVIDIA เองและรุ่นจากพาร์ทเนอร์ชั้นนำอย่าง ASUS, MSI, GIGABYTE และอื่นๆ
การออกแบบของการ์ดรุ่น Founder Edition
การ์ดจอ GeForce RTX 5090 รุ่น Founders Edition นั้นถือเป็นผลงานชิ้นเอกด้านการออกแบบ ใช้วัสดุระดับพรีเมียม มาในดีไซน์ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร พร้อมนวัตกรรมด้านการระบายความร้อน ตัวการ์ดมีขนาด 2 สล็อต ยาว 304 มิลลิเมตร สูง 137 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่าเล็กกะทัดรัดสำหรับเคสขนาด SFF (Small Form Factor) ด้วยระบบระบายความร้อนแบบ Double Flow Through รุ่นใหม่ล่าสุด
วิศวกรของ NVIDIA ได้ใช้นวัตกรรมการออกแบบใหม่ๆ รวมถึงการใช้วัสดุนำความร้อนแบบโลหะเหลว (Liquid Metal TIM) และแผ่น PCB แบบ 3 ชิ้นที่ไม่เหมือนใคร ทำให้การระบายความร้อนมีประสิทธิภาพสูงแม้จะเป็นการ์ดประสิทธิภาพสูง
การทำงานด้าน AI
ในส่วนของการใช้งานด้าน AI นั้น การ์ดจอ RTX 5090 สามารถสร้างภาพได้เร็วขึ้น 2 เท่าและใช้หน่วยความจำน้อยลงครึ่งหนึ่งเมื่อใช้โหมด FP4 เทียบกับ FP16 บนการ์ดจอรุ่น RTX 4090 ตัวอย่างเช่น การใช้โมเดล FLUX.1 [dev] จาก Black Forest Labs ที่ปกติต้องใช้แรมมากกว่า 23GB ในโหมด FP16 และใช้เวลาสร้างภาพ 15 วินาทีบน RTX 4090 แต่เมื่อใช้ FP4 บน RTX 5090 จะใช้แรมน้อยลงและสร้างภาพได้เร็วขึ้น ใช้เวลาเพียงแค่ 5 วินาทีเท่านั้น
การต่อจอภาพที่ความละเอียดสูงขึ้น
การ์ดจอรุ่นใหม่นี้ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีล่าสุดอย่าง PCIe Gen5 และ DisplayPort 2.1b UHBR20 ที่รองรับการแสดงผลความละเอียดสูงถึง 8K ที่ 165Hz สำหรับรุ่นโน้ตบุ๊กนั้น มีเทคโนโลยี Max-Q ใหม่ๆ เช่น Advanced Power Gating, Low Latency Sleep และ Accelerated Frequency Switching ช่วยให้แบตเตอรี่อยู่ได้นานขึ้นถึง 40% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน
คุณสมบัติทางเทคนิคของ RTX 50 Series
GeForce RTX 5090 | GeForce RTX 5080 | GeForce RTX 5070 Ti | GeForce RTX 5070 | |
NVIDIA CUDA® Cores | 21760 | 10752 | 8960 | 6144 |
Shader Cores | Blackwell | Blackwell | Blackwell | Blackwell |
Tensor Cores (AI) | รุ่นที่ 5 3352 AI TOPS | รุ่นที่ 5 1801 AI TOPS | รุ่นที่ 5 1406 AI TOPS | รุ่นที่ 5 988 AI TOPS |
Ray Tracing Cores | รุ่นที่ 4 318 TFLOPS | รุ่นที่ 4 171 TFLOPS | รุ่นที่ 4 133 TFLOPS | รุ่นที่ 4 94 TFLOPS |
Boost Clock (GHz) | 2.41 | 2.62 | 2.45 | 2.51 |
Base Clock (GHz) | 2.01 | 2.3 | 2.3 | 2.16 |
ความกว้างของการส่งข้อมูลจากหน่วยความจำ | 512 บิต | 256 บิต | 256 บิต | 192 บิต |
ความละเอียดสูงสุด & อัตราการรีเฟรช (1) | 4K ที่ 480Hz หรือ 8K ที่ 120Hz พร้อม DSC, HDR | 4K ที่ 480Hz หรือ 8K ที่ 120Hz พร้อม DSC, HDR | 4K ที่ 480Hz หรือ 8K ที่ 120Hz พร้อม DSC, HDR | 4K ที่ 480Hz หรือ 8K ที่ 120Hz พร้อม DSC, HDR |
ขั้วต่อจอแสดงผลมาตรฐาน | HDMI(2), 1x DisplayPort(3) | HDMI(2), 1x DisplayPort(3) | HDMI(2), 1x DisplayPort(3) | HDMI(2), 1x DisplayPort(3) |
หลายหน้าจอ | มากสุด 4 (4) | มากสุด 4 (4) | มากสุด 4 (4) | มากสุด 4 (4) |
HDCP | 2.3 | 2.3 | 2.3 | 2.3 |
สถาปัตยกรรม NVIDIA | Blackwell | Blackwell | Blackwell | Blackwell |
Ray Tracing | มี | มี | มี | มี |
NVIDIA DLSS | DLSS 4 | DLSS 4 | DLSS 4 | DLSS 4 |
NVIDIA Reflex | Reflex 2 | Reflex 2 | Reflex 2 | Reflex 2 |
NVIDIA Broadcast | มี | มี | มี | มี |
PCI Express รุ่นที่ 5 | มี | มี | มี | มี |
Resizable BAR | มี | มี | มี | มี |
NVIDIA App | มี | มี | มี | มี |
NVIDIA Ansel | มี | มี | มี | มี |
NVIDIA FreeStyle | มี | มี | มี | มี |
NVIDIA ShadowPlay | มี | มี | มี | มี |
NVIDIA Highlights | มี | มี | มี | มี |
NVIDIA G-SYNC® | มี | มี | มี | มี |
ไดรเวอร์ Game Ready | มี | มี | มี | มี |
ไดรเวอร์ NVIDIA Studio | มี | มี | มี | มี |
NVIDIA Omniverse | มี | มี | มี | มี |
RTX Remix | มี | มี | มี | มี |
Microsoft DirectX® 12 Ultimate | มี | มี | มี | มี |
NVIDIA GPU Boost™ | มี | มี | มี | มี |
NVIDIA NVLink™ (SLI-Ready) | No | No | No | No |
Vulkan 1.4, OpenGL 4.6 | มี | มี | มี | มี |
ตัวเข้ารหัส NVIDIA (NVENC) | 3x รุ่น 9 | 2x รุ่น 9 | 2x รุ่น 9 | 1x รุ่น 9 |
ตัวถอดรหัส NVIDIA (NVDEC) | 2x รุ่น 6 | 2x รุ่น 6 | 1x รุ่น 6 | 1x รุ่น 6 |
เข้ารหัส AV1 | มี | มี | มี | มี |
ถอดรหัส AV1 | มี | มี | มี | มี |
รองรับ CUDA Toolkit เวอร์ชัน | 12.8 | 12.8 | 12.8 | 12.8 |
VR Ready | มี | มี | มี | มี |
อุณหภูมิกราฟิกการ์ดสูงสุด (ในหน่วยเซลเซียส) | 90 | 88 | 88 | 85 |
กำลังไฟเมื่อใช้กราฟิกทั้งหมด (W) | 575 | 360 | 300 | 250 |
กำลังไฟที่จำเป็นสำหรับระบบ (W) (5) | 1000 | 850 | 750 | 650 |
ขั้วต่อสายไฟที่จำเป็น | สายเคเบิล PCIe 8 พิน 4x (มีตัวแปลงในกล่อง) หรือ สายเคเบิล 600W หรือ PCIe Gen 5 ที่สูงกว่า 1x | สายเคเบิล PCIe 8 พิน 3x (มีตัวแปลงในกล่อง) หรือ สายเคเบิล 600W หรือ PCIe Gen 5 ที่สูงกว่า 1x | สายเคเบิล PCIe 8 พิน 2x (ตัวแปลงในกล่อง) หรือ สายเคเบิล 300 วัตต์ หรือ PCIe Gen 5 ที่สูงกว่า | สายเคเบิล PCIe 8 พิน 2x (ตัวแปลงในกล่อง) หรือ สายเคเบิล 300 วัตต์ หรือ PCIe Gen 5 ที่สูงกว่า |
2 – DisplayPort 2.1b with UHBR20: up to 4K 480Hz or 8K 165Hz with DSC
3 – ตามที่ระบุไว้ใน HDMI 2.1b: สูงสุด 4K 480Hz หรือ 8K 120Hz พร้อม DSC, Gaming VRR, HDR
4 – หลายหน้าจอ:
จอแสดงผลอิสระ 4 จอที่ 4K 165Hz โดยใช้ DP หรือ HDMI
จอแสดงผลอิสระ 2 จอที่ 4K 360Hz หรือ 8K 100Hz พร้อม DSC โดยใช้ DP หรือ HDMI
การกำหนดค่าการแสดงผลอื่น ๆ อาจเป็นไปได้ตามแบนด์วิดท์ที่มีอยู่
5 – Minimum is based on a PC configured with a Ryzen 9 9950X processor. Recommend PCIe CEM 5.1 compliant PSU. Power requirements can be different depending on system configuration.
หมายเหตุ: สเปคข้างต้นระบุถึงกราฟิคการ์ดซึ่งรวมอยู่ในการออกแบบกราฟิกการ์ดรุ่นต้นฉบับหรือรุ่นอ้างอิงของ NVIDIA สเปคการคล็อกจะมีผลขณะเล่นเกมโดยใช้กราฟิคการ์ดในระดับปานกลางถึงเต็มรูปแบบ ข้อมูลจำเพาะของกราฟิกการ์ดอาจแตกต่างกันไปตามผู้ผลิตการ์ดเสริม โปรดดูข้อกำหนดด้านการจัดส่งจริงในเว็บไซต์ของผู้ผลิตการ์ดเสริม