ไมโครซอฟท์บอกว่าการอัปเดต Windows 11 เวอร์ชัน 23H2 นี้จะมีการปรับปรุงคุณสมบัติใหม่ถึง 150 รายการ และรวมถึงการนำ AI มาใส่ไว้ใน Windows เพื่อเป็นผู้ช่วยให้เราทำงานต่าง ๆ ได้เสร็จเร็วขึ้น ส่วนการปรับปรุงแอปพลิเคชันย่อย ๆ ในเวอร์ชัน 23H2 ทางไมโครซอฟท์แจ้งไว้ตามหัวข้อด้านล่างนี้ครับ
Paint: แอปอย่าง Paint ที่เคยถูกคาดหมายว่าจะถอดทิ้งกลายเป็นหนึ่งในแอปที่ได้รับการปรับปรุงความสามารถใหม่ ๆ มาโดยตลอด และล่าสุดก็เพิ่มพลังด้วย AI ที่จะช่วยลบพื้นหลังของภาพ และยังเพิ่มการทำงานในลักษณะของเลเยอร์เข้ามาอีกด้วย
Photos: แอปที่ใช้พรีวิวรูปและแก้ไขรูปเบื้องต้นก็ยังมีการใส่คุณสมบัติด้าน AI เข้ามาเช่นกัน เช่นฟังก์ชันการเบลอฉากหลังของภาพ พร้อมการทำงานร่วมกับ OneDrive เพื่อให้สามารถเป็นเครื่องมือในการค้นหารูปภาพที่ต้องการได้ โดยใช้ข้อความบ่งบอกลักษณะของภาพหรือค้นหาด้วยชื่อสถานที่ เป็นต้น
Snipping Tool: เครื่องมือจับภาพหน้าจอที่ปกติก็ใช้ง่ายใช้สะดวกอยู่แล้ว ก็จะมีการอัปเดตให้สามารถแยกเนื้อหาที่เป็นข้อความจากรูปภาพเพื่อนำไปวางในแอปพลิเคชันอื่นได้ รวมถึงสามารถแก้ไขข้อมูลบางส่วนที่เราจับภาพมาแล้วได้ นอกจากนี้ยังสามารถบันทึกเสียงลงไปในการจับภาพได้เพื่อช่วยให้เราสามารถสร้างคอนเทนต์จากภาพบนหน้าจอได้สะดวกขึ้น
Clipchamp: โปรแกรมตัดต่อวิดีโอที่ไมโครซอฟท์ซื้อมาเพื่อทดแทนแอป Windows Movie Maker ในตำนาน โดย Clipchamp ของเดิมเองก็ใช้งานค่อนข้างง่ายและมีฟังก์ชันหลายอย่างที่น่าประทับใจอยู่แล้ว เช่นการสร้างเสียงพูดจากข้อความและยังรองรับการทำงานเป็นภาษาไทยอีกด้วย พอมาถึงยุค AI ก็ได้ใส่ฟังก์ชันการสร้างวิดีโอแบบอัตโมัติด้วย AI มาให้ด้วยเลย เรียกได้ว่าล้ำไปอีก แต่ Clipchamp ที่ให้ใช้งานฟรีก็มีข้อจำกัดอยู่บ้างนะ ถ้าใช้เต็มก็ต้องขยับไปเป็นเวอร์ชันเสียเงินครับ
Notepad: โปรแกรมธรรมดาที่หลายคนใช้งานทุกวัน รวมถึงคนในกองบรรณาธิการของเราด้วย เพราะด้วยความที่ Notepad เป็นเท็กซ์เอติเตอร์แบบเพียว ๆ ไม่มีอะไรมารบกวนสายตาด้วยลูกเล่นและฟังก์ชันเหมือนพวกโปรแกรมเวิร์ดโปรเซสเซอร์ทั้งหลาย ทำให้มีสมาธิและจดจ่ออยู่กับข้อความที่จะพิมพ์ลงไปได้มากเป็นพิเศษ และใช่บทความข่าวนี้เราก็เขียนบน Notepad ด้วยเหมือนกัน Notepad ในช่วงหลัง ๆ มานี้ก็ได้รับการปรับปรุงไปมากพอสมควร อย่างตอนนี้ Notepad สามารถทำงานในลักษณะของ Tab ที่เปิดไฟล์หลายไฟล์พร้อมกันได้ โดยไม่ต้องแยกไปเป็นหน้าต่างย่อย และรองรับ Darkmode เป็นต้น ส่วนการอัปเดตล่าสุดไมโครซอฟท์บอกว่าจะใส่การบันทึกสถานะของเซสชันที่เราทำงานค้างไว้โดยอัตโนมัติเพื่อให้กลับมาดูข้อความที่บันทึกไว้ได้ตลอด ซึ่งรวมถึง Tab ที่ยังไม่ได้ถูกบันทึกด้วย
Outlook for Windows: สำหรับ Outlook for Windows นี้ได้รับการปรับปรุงไปแล้วเรียบร้อยและสามารถอัปเดตได้แล้วตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน ที่ผ่านมา โดยผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อและประสานงานบัญชีต่าง ๆ รวมถึง Gmail, Yahoo, iCloud และอื่น ๆ ได้ในแอปเดียว เครื่องมืออัจฉริยะช่วยให้ผู้ใช้เขียนอีเมลที่ชัดเจน กระชับ และแนบเอกสารและรูปถ่ายสำคัญจาก OneDrive ได้อย่างราบรื่น
File Explorer: ทุกวันนี้รู้สึกว่า File Explorer ของวินโดวส์นั้นดูขาด ๆ เกิน ๆ อยู่ตลอด ปรับมาหลายรอบก็ยังไม่ลงตัวซะทีทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะว่ารูปแบบการทำงานร่วมกับไฟล์ของหลายคนอาจจะแตกต่างกันเพราะไมโครซอฟต์เองก็บอกว่าปรับตามการใช้งานของคนส่วนใหญ่ ดังนั้นอาจจะผิดที่ตัวเราก็ได้ ส่วนการปรับปรุงในรอบที่จะถึงนี้ทางไมโครซอฟท์ก็บอกว่าจะปรับปรุง address bar และ search box เพื่อให้เราเข้าถึงและค้นหาไฟล์ที่ต้องการได้สะดวกขึ้น และติดตามกิจกรรมของไฟล์ล่าสุด และทำงานร่วมกันโดยไม่ต้องเปิดไฟล์ด้วยซ้ำ นอกจากนี้ File Explorer ยังมีฟีเจอร์แกลเลอรีใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อให้เข้าถึงคอลเลกชันรูปภาพได้อย่างง่ายดาย อันนี้ก็ต้องดูกันต่อไปว่าจะใช้ได้สะดวกขึ้นจริงไหม
Voice access ใหม่ และเสียงที่เป็นธรรมชาติมากขึ้นใน Narrator: ประสบการณ์การเขียนข้อความแบบใหม่ด้วยการเสียงและเสียงที่เป็นธรรมชาติมากขึ้นใน Narrator เป็นการสานต่อความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของเราในการทำให้ Windows 11 เป็น Windows เวอร์ชันที่เข้าถึงได้ง่ายที่สุด จุดนี้น่าได้เฉพาะภาษาอังกฤษก่อน ส่วนภาษาไทยแค่สั่งพิมพ์ด้วยเสียงได้ถูกต้องก็ดีใจแล้ว
Windows Backup: ช่วยให้การย้ายไปยังพีซีเครื่องใหม่ที่ใช้ Windows 11 ได้ราบรื่นยิ่งขึ้น ทำให้การย้ายข้อมูลจากพีซีเครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่งทำได้ง่ายและทำงานได้ทันทีแบบไร้รอยต่อ
ทั้งหมดนี้ก็เป็นสิ่งที่ไมโครซอฟท์ได้ระบุไว้ครับ ส่วนการใช้งานจริงจะเป็นเช่นไรก็ต้องลองกันครับ โดยไมโครซอฟท์จะเริ่มเปิดให้อัปเดต Windows 11 22H2 ได้ในวันที่ 26 กันยายนที่จะถึงนี้ครับ
นอกจาก Windows 11 แล้ว ไมโครซอฟท์ก็ได้ทำการอัปเดตผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ด้วย AI อีก ไม่ว่าจะเป็น Microsoft Edge ที่ผนวกเข้ากับ Bing AI, มีการปรับปรุง Microsoft 365 ด้วยคุณสมบัติ Copilot และยังมีการปรับปรุง Microsoft Designer โดยใช้ Dall.E 3 เข้ามาช่วยขับเคลื่อนงานด้านความคิดสร้างสรรค์ รอบนี้เรียกได้ว่าเป็นการนำ AI มาสู่ Windows และบริการต่าง ๆ อย่างเต็มสูบเลยครับ และมันก็ทำให้เรานึกถึงสิ่งที่ CEO ของอินเทลบอกว่าเรากำลังจะเข้าสู่ยุคของ AI PC ซึ่งเราจะได้เห็นคุณสมบัติใหม่ ๆ เหล่านี้ทำงานได้ดีขึ้นบนแพลตฟอร์มของอินเทลรุ่นใหม่อย่าง Meteor Lake (อินเทล คอร์ เจนฯ 14 สำหรับโน้ตบุ๊ก) และไม่เพียงแต่อินเทลเท่านั้น แม้แต่เอเอ็มดีเอง ก็ได้จัดเตรียมเรื่องของ AI มาสักพักใหญ่ ๆ แล้วกับ Ryzen AI รอเพียงการเปิดตัวของซอฟต์แวร์หลักอย่าง Windows และซอฟต์แวร์ยอดนิยมอย่างชุด Microsoft Office (Microsoft 365) ครับ เพราะถ้ามีฮาร์ดแวร์รองรับ แต่ไม่มีซอฟต์แวร์มาใช้ประโยชน์ ฮาร์ดแวร์ AI เหล่านั้นก็ไม่มีประโยชน์อะไรครับ
ข้อมูลเพิ่มเติม: https://blogs.microsoft.com/blog/2023/09/21/announcing-microsoft-copilot-your-everyday-ai-companion/