Windows 11 อัปเดต KB5070311 (Preview) ยกระดับ Copilot+ PC ปรับโฉม File Explorer และแจ้งเตือนเรื่อง Secure Boot เตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่ปี 2026

ไมโครซอฟท์ได้ปล่อยอัปเดตพรีวิวแบบไม่เน้นความปลอดภัย (Non-security preview update) รหัส KB5070311 เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2025 สำหรับ Windows 11 เวอร์ชัน 24H2 และ 25H2 โดยเน้นการปรับปรุงฟังก์ชันการทำงาน ประสิทธิภาพ และความเสถียรของระบบ อัปเดตครั้งนี้มาพร้อมกับหมายเลข OS Build 26200.7309 และ 26100.7309

ประกาศสำคัญและกำหนดการอัปเดต

• งดปล่อยอัปเดตพรีวิวในเดือนธันวาคม: เนื่องจากการลดระดับการปฏิบัติงานในช่วงวันหยุดเทศกาลตะวันตกและวันปีใหม่ ไมโครซอฟท์จะไม่ปล่อยอัปเดตพรีวิว (Non-security) เพิ่มเติมในเดือนธันวาคม 2025 โดยจะกลับมาปล่อยอัปเดตตามปกติในเดือนมกราคม 2026 แต่แพตช์ความปลอดภัยรายเดือนจะยังคงมีตามปกติ
• การแจ้งเตือนเรื่อง Secure Boot: ใบรับรอง Secure Boot บนอุปกรณ์ Windows ส่วนใหญ่จะเริ่มหมดอายุตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2026 ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการบูตเครื่องในอุปกรณ์บางประเภทหากไม่อัปเดตให้ทันเวลา ผู้ใช้งานจึงควรตรวจสอบและเตรียมการล่วงหน้า
• รูปแบบชื่ออัปเดตใหม่: มีการปรับชื่ออัปเดตให้เป็นมาตรฐานเดียวกันเพื่อให้อ่านและเข้าใจได้ง่ายขึ้น โดยตัดรายละเอียดทางเทคนิคที่ไม่จำเป็นออก แต่ยังคงระบุข้อมูลสำคัญ เช่น วันที่และหมายเลข KB ไว้

ฟีเจอร์ใหม่สำหรับ Copilot+ PCs

สำหรับอุปกรณ์กลุ่ม Copilot+ PCs มีการเพิ่มความสามารถด้าน AI และปรับปรุงประสบการณ์ใช้งานดังนี้

• การตั้งค่า (Settings): เมนูผลการค้นหาแสดงผลลัพธ์ได้มากขึ้น พร้อมแถบเลื่อน (Scroll bar) เพื่อดูรายการทั้งหมด นอกจากนี้ ในส่วน Recommended settings ยังมีตัวเลือกจาก Agent แบบอินไลน์เพื่อการปรับค่าที่รวดเร็วขึ้น
• Click to Do: ปรับดีไซน์เมนูบริบท (Context menu) ให้เข้าถึงคำสั่งที่ใช้บ่อย เช่น Copy, Save หรือ Share ได้ง่ายขึ้น และเมนูจะเปิดขึ้นอัตโนมัติเมื่อมีรูปภาพหรือตารางขนาดใหญ่ปรากฏบนหน้าจอ
• กล้อง (Camera): รองรับการใช้ Windows Studio Effects ซึ่งเป็นฟีเจอร์ปรับแต่งภาพด้วย AI กับกล้องเสริมอื่นๆ เช่น เว็บแคม USB หรือกล้องหลังของแล็ปท็อปได้แล้ว
• Windows Search: สามารถค้นหารูปภาพที่จัดหมวดหมู่ด้วย AI จากแอป Microsoft Photos ได้ผ่านการค้นหาแบบ Semantic search

การปรับปรุงทั่วไปสำหรับ Windows 11 (All PCs)

• File Explorer:
  • ปรับปรุง Dark Mode ให้แสดงผลสม่ำเสมอยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของกราฟ แถบสถานะ และกล่องข้อความโต้ตอบต่าง ๆ
  • ปรับเมนูบริบท (Context menu) ให้เรียบง่ายขึ้น โดยรวบรวมคำสั่งพื้นฐานอย่าง Share, Copy และ Move ไว้ในเมนูเดียวเพื่อลดความซับซ้อน
• Taskbar & System Tray:
  • เพิ่มแอนิเมชันใหม่เมื่อเลื่อนเมาส์ผ่านกลุ่มแอปบน Taskbar
  • สามารถแชร์หน้าต่างแอปที่เปิดอยู่ไปยัง Copilot ได้โดยตรงจาก Taskbar เพื่อให้ Copilot Vision วิเคราะห์เนื้อหาในแอปนั้น ๆ
• Settings:
  • ย้ายการตั้งค่าคีย์บอร์ดบางรายการจาก Control Panel มาไว้ใน Settings แล้ว ได้แก่ “Character repeat delay and rate” และ “Cursor blink rate”
  • สามารถเพิ่มและจัดการอุปกรณ์มือถือได้ที่เมนู Bluetooth & Devices > Mobile Devices [cite: 101]
• Gaming:
  • ขยายฟีเจอร์ Full Screen Experience (FSE) ไปยังอุปกรณ์เล่นเกมพกพา (Handheld) รุ่นอื่นๆ เพื่อมอบประสบการณ์แบบคอนโซลและลดการทำงานของแอปพื้นหลัง
• Input:
  • ปากกาที่รองรับ Haptic feedback จะมีการสั่นตอบสนองเมื่อใช้งานกับอินเทอร์เฟซของ Windows เช่น เมื่อเลื่อนผ่านปุ่มปิดหรือปรับขนาดหน้าต่าง
  • ปรับปรุงประสิทธิภาพไฟ Backlight ของคีย์บอร์ดให้ประหยัดพลังงานและแสดงผลชัดเจนขึ้นในที่แสงน้อย

การปรับปรุงด้านระบบและประสิทธิภาพ

• Windows on Arm (Prism): เพิ่มการรองรับ Emulation สำหรับแอปพลิเคชันที่ใช้ชุดคำสั่ง AVX และ AVX2 รวมถึงส่วนขยายที่เกี่ยวข้อง
• กราฟิกและการแสดงผล: แก้ไขปัญหาภาพกระตุกเมื่อแอปพลิเคชันเรียกดูรายการโหมดหน้าจอที่รองรับทั้งหมดบนหน้าจอความละเอียดสูง
• การกู้คืนระบบ: ฟีเจอร์ Quick Machine Recovery (QMR) สามารถสแกนและตรวจสอบวิธีแก้ไขปัญหาโดยอัตโนมัติ และแนะนำทางเลือกในการกู้คืนระบบหากไม่สามารถแก้ไขได้ทันที

ปัญหาที่ทราบในเวอร์ชันนี้ (Known Issues)

• File Explorer: อาจเกิดอาการหน้าจอสีขาวกะพริบชั่วครู่เมื่อเปิดใช้งานในโหมด Dark mode หรือเมื่อมีการสร้างแท็บใหม่และสลับหน้าระหว่าง Home กับ Gallery
• หน้าจอล็อก (Lock Screen): ไอคอนรหัสผ่านอาจหายไปหรือไม่แสดงในตัวเลือกการลงชื่อเข้าใช้ แต่ยังสามารถคลิกที่ตำแหน่งเดิมเพื่อใส่รหัสผ่านได้ตามปกติ

ที่มา: Windows Support