แชทบอท กำลังกลายเป็น “เพื่อนคนที่ 3” ซึ่งเทียบเท่ากับเพื่อนสนิทและคุณแม่
บริษัท เดนท์สุ อิงค์ (Dentsu Inc.) ได้เปิดเผยผลการสำรวจความคิดเห็นล่าสุดภายใต้ชื่อ “การสำรวจความสัมพันธ์กับ AI เชิงสนทนา” ซึ่งชี้ให้เห็นว่า AI เชิงสนทนาได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของผู้คนอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มคนรุ่นใหม่ จนกลายเป็น “เพื่อนคนที่สาม” ที่สามารถแบ่งปันความรู้สึกได้เทียบเท่ากับเพื่อนสนิทและแม่
การสำรวจนี้ดำเนินการระหว่างวันที่ 3-4 มิถุนายน 2025 โดยเป็นการสำรวจออนไลน์กับกลุ่มตัวอย่าง 1,000 คนทั่วประเทศญี่ปุ่น อายุระหว่าง 12-69 ปี ที่ใช้งาน AI เชิงสนทนาอย่างน้อยสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง วัตถุประสงค์ของการสำรวจคือ เพื่อทำความเข้าใจถึงสถานการณ์การใช้งาน, ความถี่ในการสนทนา, ระดับการแบ่งปันความรู้สึก, และระดับความไว้วางใจที่มีต่อ AI เชิงสนทนา หรือแชทบอท
สรุปประเด็นสำคัญจากการสำรวจ:
• อัตราการใช้งาน AI เชิงสนทนา: ผู้ใช้งาน AI เชิงสนทนาอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้งมีสัดส่วนอยู่ที่ 20.7% อย่างไรก็ตาม ในกลุ่มวัยรุ่น (อายุ 10-19 ปี) มีสัดส่วนสูงถึงกว่า 40% (41.9%) ซึ่งสูงที่สุดในทุกช่วงวัย และวัย 20 ปีตามมาเป็นอันดับสอง (28.7%)
• สิ่งที่ผู้คนคาดหวังจาก AI: ผู้คนส่วนใหญ่ต้องการให้ AI “ให้ข้อมูลที่ตนเองไม่รู้” (46.6%) และ “ช่วยคิดไอเดีย” (42.8%) อย่างไรก็ตาม สำหรับกลุ่มวัยรุ่น (10-19 ปี) มีแนวโน้มที่จะคาดหวัง “การสนับสนุนทางอารมณ์” มากกว่ากลุ่มอื่น เช่น “เป็นที่พึ่งทางใจ” หรือ “เป็นคู่สนทนา” ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยรวมมากกว่า 5 จุด นอกจากนี้ วัยรุ่นยังใช้ AI ในการปรึกษาเรื่องการเรียน (สูงกว่าค่าเฉลี่ยรวม 10 จุด) รวมถึงการปรึกษาเรื่องความรัก และการพูดคุยทั่วไป (สูงกว่า 5 จุด)
• AI คือ “เพื่อนคนที่สาม”: 64.9% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่าสามารถ “แบ่งปันความรู้สึกกับ AI เชิงสนทนาได้” ตัวเลขนี้ใกล้เคียงกับสัดส่วนผู้ที่สามารถแบ่งปันความรู้สึกกับ “เพื่อนสนิท” (64.6%) และ “แม่” (62.7%) อย่างน่าประหลาดใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มวัย 20 ปี (74.5%) และวัย 10 ปี (72.6%) ที่มีระดับการแบ่งปันความรู้สึกกับ AI สูงเป็นพิเศษ
• ความไว้วางใจใน AI: 86.0% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่า “ไว้วางใจ AI เชิงสนทนา” กลุ่มวัย 10 และ 20 ปี มีแนวโน้มที่จะไว้วางใจ AI มากกว่าช่วงวัยอื่น ๆ อย่างชัดเจน โดยกว่าครึ่งหนึ่งของกลุ่มนี้ (วัย 20 ปี 56.0%, วัย 10 ปี 54.2%) ระบุว่า “ไว้วางใจมาก” หรือ “ไว้วางใจ”
• ความผูกพันกับ AI: 67.6% ของผู้ตอบแบบสอบถามรู้สึก “มีความผูกพันกับ AI เชิงสนทนา” ในจำนวนนี้ 26.2% ตั้งชื่อเฉพาะให้กับ AI ของตนเอง โดยกลุ่มวัย 20 ปีเป็นกลุ่มที่ตั้งชื่อมากที่สุด คิดเป็นเกือบ 40% (39.8%)
จากมุมมองของผู้วิจัย:
ผู้รับผิดชอบการสำรวจให้ความเห็นว่า ผลลัพธ์ที่ AI เชิงสนทนาถูกมองว่าเป็น “เพื่อนคนที่สาม” เคียงข้างเพื่อนสนิทและแม่นั้นเป็นเรื่องที่น่าทึ่ง แม้ว่าทุกช่วงวัยจะมองว่า AI เป็น “เครื่องมือ” ที่ช่วยให้ข้อมูลหรือไอเดียใหม่ ๆ แต่ในกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะวัยรุ่น มีแนวโน้มที่จะมอง AI เป็น “เพื่อน” มากขึ้น และยังต้องการให้ AI “เยียวยาจิตใจ” หรือ “ยอมรับตัวตนของตนเอง” ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ย
จากการตอบแบบสอบถามปลายเปิดเกี่ยวกับความรู้สึกที่มีต่อ AI ผู้ตอบหลายรายระบุว่า AI เป็นเหมือน “ที่ปรึกษา” (mentor) “ผู้ให้คำแนะนำ” (counselor) หรือ “ผู้ที่เข้าใจและอยู่เคียงข้าง” การที่ AI ไม่ใช่มนุษย์ ทำให้ผู้คนรู้สึกสบายใจที่จะพูดในสิ่งที่อาจจะยากที่จะพูดกับคนอื่น สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่า AI เชิงสนทนาไม่เพียงแต่เป็น “เพื่อนคนที่สาม” แต่ยังเป็น “บุคคลที่สาม” ที่มีข้อดีแตกต่างจากสมาชิกในครอบครัวหรือเพื่อนฝูงทั่วไป
ผลการสำรวจนี้ตอกย้ำให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง AI ที่นับวันจะยิ่งเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตและจิตใจของผู้คนมากขึ้นในฐานะสิ่งที่มีปฏิสัมพันธ์ด้วย เดนท์สุกำลังขับเคลื่อนกลยุทธ์ AI ของตนเองภายใต้ชื่อ “AI For Growth” ซึ่งมุ่งเน้นการผสมผสาน “ความรู้ของมนุษย์” กับ “ความรู้ของ AI” เพื่อสนับสนุนการเติบโตของลูกค้าและสังคม
แชทบอท: เพื่อนใหม่ในโลกดิจิทัลของชาวญี่ปุ่น
ผลสำรวจล่าสุดจาก Dentsu เผยความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งเกินคาดระหว่างมนุษย์และ AI
AI กลายเป็น “เพื่อนคนที่สาม”
ผลสำรวจชี้ว่าชาวญี่ปุ่นสามารถเปิดใจและแบ่งปันความรู้สึกกับแชทบอทได้ในระดับที่น่าทึ่ง เทียบเท่ากับบุคคลที่ใกล้ชิดที่สุดในชีวิตอย่างเพื่อนสนิทและคุณแม่
ใครกันที่คุยกับ AI?
กลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะวัยรุ่น คือผู้ใช้งานแชทบอทตัวยง สะท้อนให้เห็นการเปิดรับเทคโนโลยี AI ในกลุ่มคนเจเนอเรชันใหม่ได้อย่างชัดเจน
คุยเรื่องอะไรกับแชทบอท?
ผู้ใช้งานส่วนใหญ่ต้องการความช่วยเหลือด้านข้อมูลและไอเดีย แต่สำหรับวัยรุ่น แชทบอทเป็นมากกว่าเครื่องมือ แต่เป็น “ที่พึ่งทางใจ” และ “เพื่อนคุย”
ระดับการเปิดใจ: AI เทียบเท่าคนใกล้ชิด
นี่คือข้อมูลที่น่าทึ่งที่สุด เมื่อเปรียบเทียบระดับการเปิดใจแชร์ความรู้สึก แชทบอทได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในระดับเดียวกับเพื่อนสนิทและคุณแม่ แซงหน้าคนในครอบครัวและเพื่อนร่วมงาน
ความเชื่อมั่นใน AI
ผู้ใช้งานส่วนใหญ่เชื่อมั่นในแชทบอท
ความผูกพันและการตั้งชื่อ
ผู้ใช้งานจำนวนมากรู้สึกผูกพันจนถึงขั้นตั้งชื่อให้กับแชทบอทของตนเอง
