บริษัท ASRock ผู้ผลิตเมนบอร์ดและการ์ดจอจากไต้หวัน กำลังปรับกลยุทธ์การผลิตเพื่อลดผลกระทบจากมาตรการภาษีสินค้านำเข้าจากจีนของสหรัฐฯ ซึ่งอาจช่วยให้บริษัทสามารถหลีกเลี่ยงการขึ้นราคาสินค้าได้ในระยะสั้น เนื่องจากการแข่งขันในตลาดยังคงสูงอยู่
การตอบสนองต่อภาษีใหม่ของสหรัฐฯ
ทำเนียบขาวเพิ่งประกาศเรียกเก็บภาษี 10% สำหรับสินค้านำเข้าจากจีนทั้งหมด รวมถึงภาษีที่เคยบังคับใช้กับสินค้าบางประเภทก่อนหน้านี้ ส่งผลให้ ASRock ต้องพิจารณาทางเลือกในการผลิตใหม่เพื่อรักษาต้นทุนให้สามารถแข่งขันได้
ASRock ให้ข้อมูลกับ PCMag ผ่านอีเมลว่า “สำหรับภาษี 10% ที่ใช้กับผลิตภัณฑ์อย่างการ์ดจอ เราต้องใช้เวลาสักระยะในการย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศอื่น ๆ”
แผนการย้ายฐานการผลิต
การย้ายการผลิตออกจากจีนจะช่วยให้ ASRock หลีกเลี่ยงภาษีที่เพิ่มขึ้น รวมถึงภาษีอื่น ๆ ในอนาคต โดยบริษัทได้ระบุว่าจะทำงานร่วมกับโรงงานผลิตในเวียดนามและไต้หวัน อย่างไรก็ตาม กระบวนการย้ายฐานการผลิตนี้อาจใช้เวลาหลายปีในการดำเนินการ
ในช่วงเปลี่ยนผ่าน ASRock ยอมรับว่าอาจต้องแบกรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นบางส่วน รวมถึงอาจมีการปรับขึ้นราคาสินค้าเพื่อสะท้อนต้นทุนที่สูงขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน ตลาดที่มีการแข่งขันสูงทำให้การปรับขึ้นราคาเป็นเรื่องที่ท้าทาย
อุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลง
ข่าวนี้สะท้อนถึงผลกระทบของภาษีต่ออุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ ซึ่งส่วนใหญ่พึ่งพาการผลิตในจีน ก่อนหน้านี้ Nvidia เคยเปิดเผยว่าความพยายามในการขยายกำลังการผลิตไปยังสหรัฐฯ และเวียดนามยังไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากปัจจัยต่าง ๆ รวมถึงสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 อย่างไรก็ตาม บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่อย่าง Apple ได้เริ่มลงทุนในอินเดียมากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน
สำหรับ ASRock บริษัทได้เปิดเผยเพิ่มเติมว่า สินค้าบางประเภท เช่น Power Supply Units (PSUs) ที่ผลิตในจีน ต้องเผชิญกับภาษีนำเข้า 25% ซึ่งเป็นภาระที่ผู้ผลิตต้องบริหารจัดการต่อไป
ในส่วนของเมนบอร์ด, ASRock ได้ย้ายฐานการผลิตมาสู่เวียดนามมาประมาณ 3-4 ปี แล้ว และผลิตเมนบอร์ดได้ดีมีคุณภาพไม่แพ้โรงงานผลิตที่อื่น ๆ เพราะสามารถผลิตเมนบอร์ดในรุ่นที่เป็นไฮเอนต์ได้แล้ว ส่วนใครที่ใช้งานเมนบอร์ดของ ASRock อยู่ลองดูที่กล่องก็จะเห็นได้ว่าที่ส่งมาขายในประเทศไทยก็ใช้ฐานการผลิตที่เวียดนามเช่นกัน