Instagram วางแผนแยก Reels เป็นแอปพลิเคชันเดี่ยว

มีรายงานว่า Instagram ของ Meta กำลังพิจารณาแยกฟีเจอร์ Reels ซึ่งเป็นวิดีโอสั้นยอดนิยม ออกมาเป็นแอปพลิเคชันเดี่ยว เพื่อแข่งขันกับ TikTok อย่างเต็มตัว ข้อมูลนี้มาจาก The Information ที่ระบุว่า Adam Mosseri หัวหน้าทีม Instagram ได้หารือกับพนักงานเกี่ยวกับโปรเจกต์ที่มีโค้ดเนมว่า “Project Ray” ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อยกระดับประสบการณ์วิดีโอสั้นให้ทัดเทียมหรือเหนือกว่า TikTok โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ที่ TikTok กำลังเผชิญความท้าทายด้านกฎระเบียบ

การเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจาก Meta เปิดตัวแอป “Edits” แอปตัดต่อวิดีโอบนมือถือเมื่อต้นปี 2568 เพื่อแข่งขันกับ CapCut ของ ByteDance ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ TikTok โดย Reels เวอร์ชันแยกนี้คาดว่าจะมีการปรับปรุงอัลกอริทึมแนะนำเนื้อหาให้ดีขึ้น รองรับวิดีโอที่มีความยาวสูงสุด 3 นาที และนำเสนอประสบการณ์การเลื่อนดูแบบเต็มหน้าจอ ซึ่งคล้ายกับจุดเด่นของ TikTok

ก่อนหน้านี้ Meta เคยพยายามสร้างแอปวิดีโอสั้น standalone อย่าง Lasso ในปี 2561 เพื่อท้าชน TikTok แต่ไม่ประสบความสำเร็จและปิดตัวไปในปี 2563 ครั้งนี้ การแยก Reels ออกมาถือเป็นกลยุทธ์ที่แตกต่าง เพราะใช้ฐานผู้ใช้และความนิยมที่มีอยู่แล้วของ Instagram ซึ่งปัจจุบันมีผู้ใช้ทั่วโลกกว่า 2 พันล้านคน นอกจากนี้ Instagram ยังได้เพิ่มแรงจูงใจให้ครีเอเตอร์ด้วยการจ่ายเงินเพื่อโปรโมต Reels บนแพลตฟอร์มคู่แข่ง เช่น TikTok, Snapchat และ YouTube รวมถึงมอบโบนัสสูงถึง 10,000-50,000 ดอลลาร์สหรัฐสำหรับครีเอเตอร์ชั้นนำที่โพสต์เนื้อหาเฉพาะบน Reels

อย่างไรก็ตาม Meta ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับกำหนดการเปิดตัวแอปนี้ หรือจะยังคงฟีเจอร์ Reels ไว้ในแอป Instagram เดิมควบคู่กันไปหรือไม่

การตัดสินใจของ Instagram ที่จะแยก Reels ออกมาเป็นแอปเดี่ยวสะท้อนถึงความพยายามของ Meta ในการคว้าโอกาสทองจากสถานการณ์ที่ TikTok กำลังเผชิญในสหรัฐฯ ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะถูกแบนหรือจำกัดการเติบโตจากข้อกังวลด้านความมั่นคงของชาติ หาก TikTok ต้องถอนตัวจากตลาดสหรัฐฯ หรือสูญเสียส่วนแบ่งผู้ใช้ Instagram จะอยู่ในตำแหน่งที่ได้เปรียบอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อ Reels มีฐานผู้ใช้ที่แข็งแกร่งจาก Instagram อยู่แล้ว ซึ่งแตกต่างจาก Lasso ที่ต้องเริ่มจากศูนย์

หาก Meta ดำเนินการตามแผนนี้สำเร็จ Reels ที่เป็นแอปเดี่ยว อาจกลายเป็นคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อของ TikTok โดยเฉพาะในตลาดสหรัฐฯ ที่มีผู้ใช้กว่า 170 ล้านคนของ TikTok อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จจะขึ้นอยู่กับการออกแบบประสบการณ์ผู้ใช้ที่ลื่นไหล การลงทุนในครีเอเตอร์ และการปรับตัวให้เข้ากับความต้องการของผู้ใช้รุ่นใหม่ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ในทางกลับกัน หากล้มเหลว อาจเป็นการย้ำเตือนว่าแม้แต่ยักษ์ใหญ่อย่าง Meta ก็อาจสะดุดในสนามแข่งขันวิดีโอสั้นที่ดุเดือดนี้ได้

สุดท้ายแล้ว การแยก Reels ออกมาไม่ใช่แค่การแข่งขันกับ TikTok เท่านั้น แต่ยังเป็นการทดสอบว่า Instagram จะสามารถรักษาความเป็นผู้นำในวงการโซเชียลมีเดียยุคใหม่ได้หรือไม่ คงต้องจับตาดูกันต่อไปว่า “Project Ray” จะส่องแสงเจิดจ้าหรือดับวูบเหมือนดาวตกเหมือนโปรเจกต์ก่อนหน้า

ข้อมูล The Information, SocialMediaToday