meta-Midjourney
|

Meta จับมือ Midjourney ยกระดับ AI สร้างภาพและวิดีโอ สู่การแข่งขันในยุค AI

Meta บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกเจ้าของแพลตฟอร์ม Facebook, Instagram และ Threads ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญกับ Midjourney สตาร์ทอัพด้าน AI ที่โดดเด่นในด้านการสร้างภาพและวิดีโอที่มีความสวยงามและสมจริง การจับมือครั้งนี้ได้รับการยืนยันผ่านโพสต์อย่างเป็นทางการของ Alexandr Wang หัวหน้าเจ้าหน้าที่ AI ของ Meta เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2568 บนแพลตฟอร์ม Threads และ X โดยระบุว่า Meta จะใช้เทคโนโลยีด้านความสวยงาม (aesthetic technology) ของ Midjourney เพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์ AI เช่น Imagine และ Movie Gen ซึ่งเป็นเครื่องมือสร้างภาพและวิดีโอของ Meta

รายละเอียดความร่วมมือ

ความร่วมมือครั้งนี้ไม่ใช่การควบรวมหรือซื้อกิจการ แต่เป็นการให้ใบอนุญาต (license) เทคโนโลยีของ Midjourney เพื่อให้ Meta นำไปพัฒนาโมเดล AI ของตนเอง โดยทีมวิจัยของทั้งสองบริษัทจะทำงานร่วมกันเพื่อสร้างเครื่องมือ AI ที่สามารถแข่งขันกับคู่แข่งรายใหญ่ เช่น Sora ของ OpenAI, Flux ของ Black Forest Lab และ Veo ของ Google เป้าหมายคือการนำเสนอประสบการณ์การสร้างเนื้อหาภาพและวิดีโอที่มีคุณภาพสูงให้กับผู้ใช้กว่าพันล้านคนบนแพลตฟอร์มของ Meta เช่น Facebook, Instagram และ Messenger

David Holz ซีอีโอของ Midjourney เน้นย้ำว่า Midjourney ยังคงรักษาความเป็นอิสระ โดยไม่มีนักลงทุนภายนอก และการร่วมมือครั้งนี้เป็นเพียงการแบ่งปันเทคโนโลยีเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน ข้อมูลจากแหล่งข่าวระบุว่า Midjourney ซึ่งมีรายได้ราว 200 ล้านดอลลาร์ในปี 2566 จากการสมัครสมาชิก มีจุดเด่นด้านการสร้างภาพที่มีสไตล์เฉพาะตัวและได้รับความนิยมอย่างสูงในวงการครีเอเตอร์

แรงกดดันจากการแข่งขัน

การตัดสินใจของ Meta ในการจับมือกับ Midjourney แสดงให้เห็นถึงกลยุทธ์ที่เปลี่ยนไป จากเดิมที่เน้นพัฒนาเทคโนโลยีภายใน มาเป็นการสร้างพันธมิตรเพื่อเร่งความเร็วในการแข่งขันในวงการ AI ซึ่งกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว การแข่งขันในด้าน AI สร้างภาพและวิดีโอกำลังร้อนแรง โดยเฉพาะเมื่อ OpenAI, Google และบริษัทอื่นๆ ต่างเร่งพัฒนาเครื่องมือที่สามารถสร้างเนื้อหาคุณภาพสูงได้ในเวลาไม่กี่วินาที

นอกจากนี้ Meta ยังเผชิญแรงกดดันจากคู่แข่งที่พัฒนาโมเดล AI อย่างรวดเร็ว การลงทุนครั้งก่อนของ Meta เช่น การซื้อ Scale AI มูลค่า 14 พันล้านดอลลาร์ และการดึงตัวผู้เชี่ยวชาญ AI จากบริษัทชั้นนำ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำด้าน AI การจับมือกับ Midjourney จึงเป็นก้าวสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถด้านการสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพสูง ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้ใช้บนแพลตฟอร์ม

ประเด็นด้านกฎหมาย

อย่างไรก็ตาม ความร่วมมือครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางข้อถกเถียงเกี่ยวกับการใช้ข้อมูลที่มีลิขสิทธิ์ในการฝึกโมเดล AI โดย Midjourney และ Meta ต่างถูกวิพากษ์วิจารณ์ในประเด็นนี้ โดยเฉพาะเมื่อ Disney และ Universal ฟ้องร้อง Midjourney เมื่อเดือนมิถุนายน 2568 ถึงกระนั้น คดีที่เกี่ยวข้องกับการใช้ข้อมูลฝึก AI มักตัดสินให้ฝ่ายเทคโนโลยีชนะโดยอ้าง “การใช้งานที่เหมาะสม” (fair use) ซึ่งอาจช่วยให้ทั้งสองบริษัทหลีกเลี่ยงปัญหาทางกฎหมายในอนาคตได้

บทวิเคราะห์

ในมุมมองของนักวิเคราะห์ ความร่วมมือครั้งนี้เป็นกลยุทธ์ที่ชาญฉลาดของ Meta ในการเสริมจุดแข็งของตนเองโดยใช้ความเชี่ยวชาญของ Midjourney ซึ่งเป็นผู้นำด้านการสร้างภาพ AI ที่มีสไตล์เฉพาะตัว การที่ Meta เลือกที่จะเป็นพันธมิตรแทนการพัฒนาเทคโนโลยีเองทั้งหมด แสดงถึงความยืดหยุ่นและความเข้าใจในความซับซ้อนของวงการ AI ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การรวมเทคโนโลยีของ Midjourney เข้ากับแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้จำนวนมหาศาลของ Meta จะช่วยให้ Meta สามารถนำเสนอเครื่องมือสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งครีเอเตอร์และนักการตลาด

อย่างไรก็ตาม ความท้าทายที่สำคัญคือการจัดการกับข้อกังวลด้านจริยธรรมและกฎหมายเกี่ยวกับการใช้ข้อมูลฝึก AI หาก Meta และ Midjourney สามารถพิสูจน์ได้ว่าโมเดลของพวกเขาสร้างสรรค์และเคารพลิขสิทธิ์ ความร่วมมือนี้มีศักยภาพที่จะเปลี่ยนโฉมวงการสร้างเนื้อหาดิจิทัลได้อย่างมาก แต่หากไม่สามารถจัดการประเด็นเหล่านี้ได้ดี อาจนำไปสู่ความเสียหายด้านชื่อเสียงและการฟ้องร้องที่ยืดเยื้อ

นอกจากนี้ การที่ Meta มุ่งเน้นไปที่การสร้างภาพและวิดีโอที่มีคุณภาพสูง อาจเป็นการตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้ที่เปลี่ยนไปในยุคที่คอนเทนต์วิดีโอสั้นและภาพที่มีสไตล์กำลังเป็นที่นิยม ตัวอย่างเช่น ความสำเร็จของ TikTok และ Reels แสดงให้เห็นว่าผู้ใช้ต้องการเนื้อหาที่ดึงดูดสายตาและเข้าถึงได้ง่าย การร่วมมือกับ Midjourney จึงอาจช่วยให้ Meta รักษาความสามารถในการแข่งขันในแง่นี้ได้

ปัจจุบัน ยังไม่มีกำหนดการที่ชัดเจนว่าเครื่องมือที่รวมเทคโนโลยีของ Midjourney จะพร้อมใช้งานเมื่อใด แต่คาดว่าผู้ใช้จะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในผลิตภัณฑ์อย่าง Imagine และ Movie Gen ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ความร่วมมือครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะยกระดับประสบการณ์ของผู้ใช้ Meta เท่านั้น แต่ยังอาจกำหนดทิศทางใหม่ให้กับวงการ AI สร้างสรรค์เนื้อหาในอนาคต

สรุป

การจับมือระหว่าง Meta และ Midjourney เป็นก้าวสำคัญของ Meta ในการมุ่งสู่ความเป็นผู้นำด้าน AI ด้วยการใช้เทคโนโลยีของ Midjourney Meta มีโอกาสที่จะสร้างเครื่องมือที่เปลี่ยนวิธีที่ผู้คนสร้างและเสพเนื้อหา อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จของความร่วมมือนี้จะขึ้นอยู่กับการจัดการความท้าทายด้านจริยธรรมและกฎหมาย รวมถึงการตอบสนองความคาดหวังของผู้ใช้ในยุคที่ AI มีบทบาทมากขึ้นเรื่อย ๆ

ที่มา: Threads, Techcrunch