Perplexity AI Deep Research
|

Perplexity AI เปิดตัว Deep Research พร้อมรบกับ AI ทุกค่ายในการหาข้อมูลเชิงลึก

ยังไม่ทันพ้นไตรมาสแรกของปี 2025 ตลาด AI Chatbot ที่เน้นการค้นหาและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกก็กำลังร้อนระอุ เมื่อ Perplexity AI เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ “Deep Research” ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การวิจัยเชิงลึกอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว ฟีเจอร์นี้ไม่เพียงแต่ยกระดับการแข่งขันกับคู่แข่งรายใหญ่ เช่น OpenAI และ Google Gemini แต่ยังตั้งเป้าที่จะแย่งชิงส่วนแบ่งผู้ใช้ในตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในกลุ่มนักวิจัย นักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญที่ต้องการเครื่องมือ AI สำหรับงานวิเคราะห์ข้อมูลที่มีความซับซ้อน

Deep Research: อาวุธใหม่ของ Perplexity AI

Deep Research เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างรายงานการวิจัยที่มีความละเอียดและครอบคลุมได้ในเวลาเพียงไม่กี่นาที โดยใช้ AI ในการค้นหาข้อมูลจากแหล่งต่างๆ บนเว็บ วิเคราะห์ และสังเคราะห์ผลลัพธ์อย่างเป็นระบบ ผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ชี้ว่า จุดเด่นของ Deep Research อยู่ที่ความเร็วและการเข้าถึงที่ง่าย โดยผู้ใช้ทั่วไปสามารถใช้งานได้ฟรีสูงสุด 5 ครั้งต่อวัน และสมาชิกแบบ Pro สามารถใช้งานได้ถึง 500 ครั้งต่อวันในราคาเพียง 20 ดอลลาร์ต่อเดือน ซึ่งถูกกว่าคู่แข่งอย่าง OpenAI ที่เรียกเก็บถึง 200 ดอลลาร์ต่อเดือนสำหรับฟีเจอร์ Deep Research ใน ChatGPT Pro

Deep Research ของ Perplexity AI นำเสนอโมเดลที่เน้นความคุ้มค่าและการเข้าถึงสำหรับผู้ใช้ทั่วไป ซึ่งเป็นจุดที่แตกต่างจาก OpenAI และ Google ที่มักเน้นการให้บริการระดับองค์กรที่มีค่าใช้จ่ายสูง แต่ Deep Research เหมาะสำหรับนักวิจัยอิสระหรือทีมเล็ก ที่ต้องการเครื่องมือทรงพลังแต่ไม่ต้องการเสียค่าใช้จ่ายสูง และยังเปิดให้ผู้ใช้ฟรีได้ใช้ความสามารถนี้อีกด้วย แน่นอนว่าความลึกในรายละเอียดคงจะสู้ตัวที่เสียเงินไม่ได้ แต่อย่างน้อยผู้ใช้ก็มีโอกาสได้ทดสอบและทดลองคุณสมบัติใหม่ ๆ ก่อนที่จะตัดสินใจใช้งานในรูปแบบการจ่ายเงิน ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี

การเปรียบเทียบกับคู่แข่งรายสำคัญ

คุณสมบัติต่าง ๆ ที่ได้จากการเปรียบเทียบอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเพราะทุกค่ายยังมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องถือว่าเป็นมุมมองในช่วงเปิดตัวตอนนี้

OpenAI (ChatGPT Deep Research)
OpenAI ได้เปิดตัวฟีเจอร์ Deep Research ไปก่อนหน้านี้ โดยเน้นการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกและการให้คำตอบที่มีบริบทครบถ้วน โดยใช้โมเดล o3 ที่พัฒนาขึ้นใหม่ แม้ว่าจะมีความแม่นยำสูง (ได้คะแนน 26.6% ใน Humanity’s Last Exam) และสามารถให้คำตอบที่ซับซ้อนได้ดีกว่า Perplexity (21.1%) แต่ข้อจำกัดอยู่ที่ราคาและความเร็ว ChatGPT Deep Research ใช้เวลานานกว่า (5-30 นาทีต่อการวิจัยหนึ่งครั้ง) และจำกัดจำนวนการใช้งานที่ 100 ครั้งต่อเดือนสำหรับสมาชิก Pro ซึ่งทำให้เหมาะกับผู้ใช้ระดับองค์กรมากกว่าผู้ใช้ทั่วไป

Google Gemini (Deep Research)
Google Gemini เปิดตัวฟีเจอร์ Deep Research ไปตั้งแต่ปลายปี 2024 กับโมเดล Gemini 1.5 Pro ซึ่งผสานเข้ากับระบบนิเวศของ Google ได้อย่างลงตัว เช่น Google Drive และ YouTube จุดแข็งของ Gemini อยู่ที่ความสามารถในการจัดการข้อมูลหลากหลายรูปแบบ (multimodal) และการเข้าถึงข้อมูลขนาดใหญ่จากฐานข้อมูลของ Google แม้ตอนนี้จะปรับมาเป็น Gemini 2.0 แล้ว ความแม่นยำและความลึกของการวิเคราะห์บางครั้งผลลัพธ์อาจไม่ครอบคลุมเท่าที่ควร ทั้งนี้การใช้พร้อมเองก็มีผลด้วยเช่นกัน

การแย่งชิงผู้ใช้ในตลาด AI Chatbot ปี 2025

ในช่วงต้นปี 2025 ตลาด AI Chatbot คาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มที่เน้นการวิจัยและการค้นหาข้อมูลเชิงลึก Perplexity AI มีโอกาสดึงดูดผู้ใช้ใหม่จากจุดเด่นด้านราคาและความเร็ว ซึ่งอาจกระทบต่อฐานผู้ใช้ของ OpenAI ที่เน้นกลุ่มพรีเมียม และ Google Gemini ที่ยังต้องปรับปรุงประสิทธิภาพ

Perplexity AI อาจกลายเป็นตัวเลือกหลักสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการเครื่องมือวิจัยที่รวดเร็วและไม่แพง ซึ่งอาจบีบให้ OpenAI และ Google ต้องปรับกลยุทธ์ เช่น ลดราคาหรือเพิ่มฟีเจอร์ฟรีเพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาด ในขณะเดียวกัน การแข่งขันนี้จะผลักดันให้ทุกค่ายพัฒนาเทคโนโลยีให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้ในระยะยาว”

มุมมองอนาคต

Deep Research ของ Perplexity AI ไม่เพียงแต่เป็นการท้าทายคู่แข่งในแง่เทคโนโลยี แต่ยังเป็นการเปลี่ยนแปลงวิธีที่ผู้คนเข้าถึงความรู้ ด้วยการทำให้เครื่องมือวิจัยระดับสูงเข้าถึงได้ง่ายและฟรีในระดับหนึ่ง Perplexity มีโอกาสสร้างฐานผู้ใช้ที่แข็งแกร่งในกลุ่มนักเรียน นักวิชาการ และนักวิจัยอิสระ อย่างไรก็ตาม การแข่งขันในตลาด AI Chatbot จะยังคงดุเดือด โดย OpenAI และ Google Gemini คงไม่ยอมเสียส่วนแบ่งตลาดง่ายๆ คาดว่าทั้งสองค่ายจะตอบโต้ด้วยการพัฒนาฟีเจอร์ใหม่หรือปรับปรุงโมเดลให้ทัดเทียมหรือเหนือกว่าในอนาคตอันใกล้

สำหรับผู้ที่สนใจ Deep Research สามารถทดลองใช้งานได้แล้ววันนี้ผ่านเว็บไซต์ของ Perplexity AI และคาดว่าจะมีการขยายไปยังแพลตฟอร์มอื่นๆ ในไม่ช้า การแข่งขันครั้งนี้เพิ่งเริ่มต้น และผู้ใช้ทั่วโลกจะเป็นผู้ตัดสินว่า AI ค่ายใดจะครองตลาดในปี 2025 นี้