Lenovo เร่งเครื่อง Hybrid AI Advantage เปิดบริการและโซลูชันใหม่ หนุนองค์กรไทยรับยุค AI เต็มสูบ
Lenovo ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้าน Hybrid AI ด้วยการขยายบริการ โซลูชัน และแพลตฟอร์มภายใต้กลยุทธ์ Hybrid AI Advantage โดยมุ่งเน้นการช่วยให้องค์กรธุรกิจสามารถนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาปรับใช้ได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลและสร้างผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ที่ชัดเจน
การประกาศในครั้งนี้ครอบคลุมถึงบริการใหม่ “AI Adoption & Change Management Services” ที่ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนบุคลากรให้ปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจาก AI ช่วยเร่งกระบวนการปรับใช้ทั่วทั้งองค์กร และเพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างมูลค่าทางธุรกิจ นอกจากนี้ เลอโนโวยังได้ขยายแพลตฟอร์ม Hybrid AI Factory ร่วมกับพันธมิตรเทคโนโลยีชั้นนำอย่าง Cisco, IBM และ NVIDIA เพื่อให้องค์กรสามารถสร้าง ขยายขนาด และบริหารจัดการระบบ AI ได้จากทุกที่ทั่วโลก
อุปสรรคและความท้าทายในการนำ AI มาใช้
จากรายงาน Lenovo Global CIO Playbook ชี้ให้เห็นว่าองค์กรกว่าสองในสามยังไม่สามารถสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าจากการลงทุนใน AI ได้อย่างเต็มที่ โดยมีสาเหตุมาจากความยากลำบากในการขยายการใช้งาน การขาดการฝึกอบรมที่เพียงพอ และปัญหาทางเทคนิค รายงานยังคาดการณ์ว่าในปี 2568 งบประมาณการลงทุนด้าน AI ของธุรกิจจะพุ่งสูงขึ้นเกือบ 20% ของงบประมาณด้านไอทีทั้งหมด ซึ่งเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่องค์กรจะต้องปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานให้ทันสมัย เพื่อรองรับการทำงานของ AI และสร้างผลตอบแทนที่จับต้องได้
คุณแอชลีย์ โกรักภูรวัลลา, ประธานกลุ่มโซลูชันอินฟราสตรัคเจอร์, เลอโนโว กล่าวว่า “เลอโนโว มุ่งมั่นที่จะทำให้ AI ระดับองค์กรเป็นเรื่องที่เข้าถึงได้ง่ายสำหรับทุกธุรกิจ เรากำลังเปลี่ยนศักยภาพของ AI ให้กลายเป็นผลลัพธ์ที่จับต้องได้จริง ผ่านโซลูชันและบริการที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า และช่วยให้ธุรกิจสามารถนำข้อมูลมาสร้างมูลค่าได้อย่างรวดเร็ว”
เลอโนโวได้ลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อเร่งการนำ AI ไปใช้ในภาคธุรกิจทั่วโลก และพบว่าจำนวนลูกค้าที่เลือกใช้โซลูชันของเลอโนโวเพิ่มขึ้นเกือบ 40% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งสะท้อนถึงความสำเร็จและแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

Hybrid AI Advantage: โซลูชันครบวงจรเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
Lenovo Hybrid AI Advantage ผสานรวมโครงสร้างพื้นฐาน AI ที่ครอบคลุม ทั้งชุดข้อมูล โมเดล บริการ และกรณีศึกษาที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว เพื่อช่วยให้องค์กรสามารถนำ AI ไปใช้ได้อย่างเต็มศักยภาพ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน เพิ่มประสิทธิผลในกระบวนการผลิต หรือการบริหารจัดการข้อมูล การนำ Generative AI มาประยุกต์ใช้ผ่านบริการของเลอโนโวสามารถช่วยลดเวลาการทำงานได้มากถึง 31% ต่อสัปดาห์
บริการเสริม AI เพื่อโครงสร้างพื้นฐานที่พร้อมขยายตัว
แม้ AI จะเข้ามามีบทบาทในที่ทำงานอย่างรวดเร็ว แต่พนักงานกว่าครึ่งยังคงรู้สึกว่าไม่ได้รับการสนับสนุนด้านการฝึกอบรม AI อย่างเพียงพอ เพื่อแก้ปัญหานี้ Lenovo จึงเปิดตัวบริการ AI Adoption and Change Management ซึ่งประกอบด้วย:
- การประเมินความพร้อมของบุคลากรด้าน AI (Lenovo AI People Readiness Assessment): ช่วยองค์กรประเมินระดับความพร้อมของพนักงานในการปรับตัวสู่การใช้ AI และระบุแนวทางสนับสนุนที่เหมาะสม
- การฝึกอบรมและสร้างการมีส่วนร่วมตามบทบาทพนักงาน (Persona-Based Training & Engagement): ออกแบบโปรแกรมการนำ AI ไปใช้ให้สอดคล้องกับหน้าที่และความรับผิดชอบของพนักงานแต่ละกลุ่ม
- การส่งเสริมการใช้งาน Copilot (Copilot Adoption): สนับสนุนให้พนักงานสามารถผสานเครื่องมือ Generative AI อาทิ Copilot เข้ากับกระบวนการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- การกำกับดูแล AI และการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่พร้อมรับ AI (AI Governance & Cultural Readiness): ส่งเสริมความเข้าใจในการใช้ AI อย่างมีความรับผิดชอบ และสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เอื้อต่อการนำ AI มาใช้
คุณเคน หว่อง, รองประธานบริหาร และประธานกลุ่มธุรกิจโซลูชันและบริการ, เลอโนโว เน้นย้ำว่า “การใช้งาน AI ให้เกิดผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรม ต้องอาศัยทั้งกลยุทธ์ที่ชัดเจน ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง และเทคโนโลยีที่เหมาะสม ด้วย Lenovo Hybrid AI Advantage เรากำลังช่วยให้ลูกค้าสามารถเปลี่ยนศักยภาพของ AI ให้กลายเป็นผลลัพธ์ที่จับต้องได้ ช่วยให้องค์กรทำงานได้อย่างชาญฉลาด รวดเร็ว และมั่นใจยิ่งขึ้นในทุกภาคส่วน”
เลอโนโวประสบความสำเร็จในการสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลของสายการบินชั้นนำ โดยการนำ AI เข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ซึ่งรวมถึงบริการให้คำปรึกษา การวางแผน และการออกแบบระบบอย่างต่อเนื่องตลอด 3 เดือน บริการเหล่านี้เมื่อผสานกับโซลูชันของเลอโนโว จะสามารถขับเคลื่อนเวิร์กโฟลว์ด้าน AI ในหลากหลายบริบท เช่น การเร่งกระบวนการวินิจฉัยทางการแพทย์ การวิจัยเชิงวิทยาศาสตร์ หรือการเพิ่มประสิทธิภาพในภาคการผลิต

โซลูชัน AI เฉพาะทางสำหรับอุตสาหกรรม
Lenovo Hybrid AI Advantage ช่วยให้องค์กรสามารถนำ AI ไปใช้เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่จับต้องได้และวัดผลได้จริง โดยมุ่งปิดช่องว่างระหว่างแผนกลยุทธ์ AI และผลลัพธ์เชิงปฏิบัติ โซลูชันใหม่นี้ได้รับการออกแบบร่วมกับพันธมิตรซอฟต์แวร์ชั้นนำ (ISV) ผ่านโครงการ Lenovo AI Innovator เพื่อมอบความยืดหยุ่นในการปรับแต่ง ประสิทธิภาพที่เหนือกว่า และความน่าเชื่อถือสูง ตัวอย่างโซลูชันที่โดดเด่น ได้แก่:
- กลุ่มงานบริการ: เพิ่มประสิทธิภาพด้วย Centific AI Data Foundry และ NVIDIA เพื่อการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า การปรับปรุงการดำเนินงาน และการขับเคลื่อนผลกำไรด้วยข้อมูลเชิงลึก
- ความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน: เพิ่มประสิทธิภาพด้วย PPE ร่วมกับ Avathon Visual AI และ NVIDIA สำหรับการตรวจสอบความปลอดภัยและการสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลแบบเรียลไทม์
- กลุ่มธุรกิจค้าปลีกและสมาร์ท สเปซ: เพิ่มประสิทธิภาพด้วย WaitTime และ Intel สำหรับการวิเคราะห์จำนวนคนแบบเรียลไทม์ โดยใช้เทคโนโลยี Edge AI และ Computer Vision เพื่อเพิ่มรายได้และยกระดับประสบการณ์ลูกค้า
- กลุ่มงานควบคุมและตรวจสอบคุณภาพ: เพิ่มประสิทธิภาพด้วย Trifork และ NVIDIA สำหรับระบบตรวจจับข้อบกพร่องแบบอัตโนมัติและการฝึกอบรมโมเดล AI บนอุปกรณ์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมคุณภาพและลดข้อผิดพลาด
ระบบนิเวศที่แข็งแกร่ง ขับเคลื่อนโรงงาน AI แบบไฮบริด
ความร่วมมือที่ขยายตัวในครั้งนี้กับพันธมิตรหลักอย่าง Cisco, IBM และ NVIDIA นำเสนอชุดโซลูชันแบบบูรณาการใหม่ที่ช่วยเร่งการนำ AI มาใช้ในองค์กรทั่วโลก แพลตฟอร์มรุ่นใหม่นี้พัฒนาบนโครงสร้างพื้นฐาน AI ที่ทันสมัย พร้อมผสานเทคโนโลยีเร่งประมวลผล เครือข่าย การสวิตชิ่ง และซอฟต์แวร์จากพันธมิตรชั้นนำ
- Lenovo ThinkSystem SR680a V4: ออกแบบมาเพื่อปลดล็อกศักยภาพของ AI อย่างเต็มที่ ด้วยหน่วยประมวลผล Intel Xeon 6 และหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPUs) NVIDIA Blackwell สูงสุด 8 ตัว เชื่อมต่อกันผ่าน NVIDIA NVLink เพื่อประสิทธิภาพการประมวลผลและการเร่งความเร็วที่ทรงพลัง
- แพลตฟอร์ม AI แบบไฮบริดของ Lenovo ร่วมกับ IBM watsonx: มอบโครงสร้างพื้นฐาน AI ประสิทธิภาพสูง พร้อมใช้งานทันที สร้างขึ้นบนเซิร์ฟเวอร์ Lenovo ThinkSystem SR675 ผสานกับ Red Hat OpenShift และเทคโนโลยีจาก NVIDIA เพื่อเร่งและเพิ่มประสิทธิภาพการพัฒนาและการนำ Generative AI ไปใช้งาน
- แพลตฟอร์ม Hybrid AI ของ Lenovo ร่วมกับ Cisco: รองรับ Cisco Nexus Switches พร้อมเทคโนโลยี NVIDIA Spectrum-X เพื่อเพิ่มสมรรถนะเครือข่ายสำหรับ AI Factory ในองค์กรขนาดใหญ่ โดยรองรับการใช้งาน AI ทั้งในสภาพแวดล้อมใหม่และเป็นการขยายโครงสร้างพื้นฐาน IT เดิม
เลอโนโว Hybrid AI Advantage พร้อมเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการทำให้ AI เข้าถึงได้มากขึ้น และสามารถปรับใช้ให้เหมาะสมกับบริบทของแต่ละองค์กร ไม่ว่าธุรกิจจะอยู่ในขั้นตอนใดของการนำ AI มาใช้ เลอโนโวมีโซลูชันแบบบูรณาการที่รองรับการใช้งานทั้งในอุปกรณ์ปลายทาง ที่ขอบของเครือข่าย (edge) และในระบบคลาวด์
การที่เลอโนโวขยายบริการและโซลูชัน Hybrid AI Advantage ในครั้งนี้ ถือเป็นการตอบรับความต้องการของตลาดที่กำลังให้ความสำคัญกับการนำ AI มาใช้ในภาคธุรกิจอย่างจริงจัง อย่างไรก็ตาม การลงทุนใน AI ไม่ได้หมายถึงแค่การซื้อฮาร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเตรียมความพร้อมของบุคลากรและวัฒนธรรมองค์กรด้วย ดังที่เลอโนโวได้นำเสนอบริการ AI Adoption & Change Management Services ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการปลดล็อกศักยภาพของ AI ให้เกิดประโยชน์สูงสุด การผสานรวม AI เข้ากับกระบวนการทำงาน จำเป็นต้องมีการวางแผนอย่างรอบคอบ การฝึกอบรมที่เหมาะสม และการกำกับดูแลที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้มั่นใจว่าการนำ AI มาใช้จะนำไปสู่ผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ยั่งยืนและมีจริยธรรม
สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชัน Hybrid AI และการขับเคลื่อนอนาคตของธุรกิจยุคใหม่โดยเลอโนโวได้ที่: https://www.lenovo.com/us/en/servers-storage/solutions/ai
You must be logged in to post a comment.