Microsoft Edge browser
|

Microsoft Edge เร่งสปีด! โหลดเร็วขึ้น 40% พร้อม UI ที่ตอบสนองทันใจ

Microsoft Edge ยังคงเดินหน้าพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อมอบประสบการณ์การท่องเว็บที่รวดเร็วและตอบสนองได้ดียิ่งขึ้น และล่าสุดก็ประสบความสำเร็จครั้งสำคัญด้วยการทำ First Contentful Paint (FCP) ทั่วโลกให้ต่ำกว่า 300 มิลลิวินาที ซึ่งเป็นก้าวสำคัญที่ยืนยันความมุ่งมั่นในการส่งมอบความเร็วระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรม

ทำไม FCP 300ms ถึงสำคัญ?

การวิจัยในอุตสาหกรรมชี้ให้เห็นว่าการรอเนื้อหาเริ่มต้นนานกว่า 300 ถึง 400 มิลลิวินาที สามารถส่งผลกระทบอย่างมากต่อความพึงพอใจของผู้ใช้ การที่ Edge สามารถทำ FCP ได้ต่ำกว่า 300ms หมายความว่าคุณสมบัติหลักของเบราว์เซอร์จะปรากฏขึ้นเกือบจะในทันที ทำให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ราบรื่นและลดความรู้สึกชะงักงัน

ในเชิงเทคนิคแล้ว การลด FCP ให้ต่ำกว่าเกณฑ์นี้แสดงให้เห็นถึงการปรับแต่งประสิทธิภาพของเอนจิ้นเบราว์เซอร์อย่างจริงจัง รวมถึงการจัดการทรัพยากรและการเรนเดอร์ UI ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่เบราว์เซอร์ยุคใหม่ต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการแข่งขันกับคู่แข่งอย่าง Google Chrome หรือ Firefox

ความเร็วที่สัมผัสได้จริง: โหลดเร็วขึ้น 40% ในฟีเจอร์หลัก

Microsoft Edge ไม่ได้เพียงแค่ลดเวลา FCP แต่ยังลดเวลาในการโหลดโดยเฉลี่ยลงถึง 40% และตอบสนองได้ดียิ่งขึ้นสำหรับคุณสมบัติเบราว์เซอร์หลัก 13 รายการ ซึ่งรวมถึง:

  • การตั้งค่า (Settings): ผู้ใช้สามารถเข้าถึงและนำทางไปยังส่วนการตั้งค่าได้เร็วขึ้นมาก ทำให้การปรับแต่งประสบการณ์การท่องเว็บเป็นไปอย่างลื่นไหลไม่ติดขัด
  • อ่านออกเสียง (Read Aloud): ฟีเจอร์ AI ที่ช่วยอ่านหน้าเว็บในภาษา สำเนียง และเสียงต่างๆ ได้ถูกปรับปรุงให้เริ่มทำงานได้เร็วขึ้นและเล่นได้อย่างราบรื่น ไร้การสะดุด ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการบริโภคเนื้อหาด้วยการฟัง
  • หน้าจอแยก (Split Screen): การสลับไปมาระหว่างงานและหน้าต่างต่างๆ ทำได้แทบจะทันที และมีความล่าช้าในการโหลดน้อยลง เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานแบบ Multi-tasking
  • พื้นที่ทำงาน (Workspaces): ตั้งแต่วินาทีที่คุณเปิดหน้า Workspaces จะรู้สึกตอบสนองและใช้งานง่ายมากขึ้น ช่วยให้คุณดำดิ่งสู่งานได้โดยไม่เสียเวลา

ความพยายามของ Microsoft Edge ในการปรับปรุงประสิทธิภาพและความเร็วนี้เป็นกลยุทธ์ที่ชาญฉลาดในการดึงดูดผู้ใช้ การที่เบราว์เซอร์ทำงานได้เร็วขึ้นโดยเฉพาะในฟีเจอร์ที่ใช้งานบ่อย จะช่วยเพิ่มความพึงพอใจและลดอัตราการเปลี่ยนไปใช้เบราว์เซอร์อื่นได้อย่างมีนัยสำคัญ

นอกจากนี้ การเน้นย้ำถึงการปรับปรุงในฟีเจอร์ที่ใช้ AI อย่าง “อ่านออกเสียง” ยังเป็นการตอกย้ำถึงการผสานรวมเทคโนโลยี AI เข้ากับประสบการณ์การใช้งานจริง ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในปัจจุบัน และเป็นการสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง

สุดท้าย Microsoft ยืนยันว่าเส้นทางการพัฒนา Edge ยังไม่สิ้นสุด โดยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า จะมีการปรับปรุงเพิ่มเติมในฟีเจอร์อย่าง Print Preview, Extensions และอื่น ๆ เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่เร็ว ลื่น และสนุกยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะใช้งานเพื่อทำงาน เรียนรู้ หรือความบันเทิง

ข้อมูล: Blog | Microsoft Edge