Steam เปิดตัว Performance Monitor ใหม่ แสดง FPS ปกติ และ FPS จาก DLSS/FSR ได้

Valve ปล่อยอัปเดตใหม่ให้กับ Steam Client ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ “In-Game Performance Monitor” ซึ่งช่วยให้เกมเมอร์สามารถตรวจสอบประสิทธิภาพของเครื่องพีซีได้แบบเรียลไทม์ขณะเล่นเกม โดยไม่ต้องพึ่งซอฟต์แวร์ภายนอก

ฟีเจอร์นี้ทำอะไรได้บ้าง?

Performance Monitor ใหม่นี้สามารถแสดงข้อมูลได้หลากหลายระดับ ตั้งแต่ค่า FPS พื้นฐาน ไปจนถึงรายละเอียดเชิงลึกของการทำงานของ CPU, GPU และหน่วยความจำ (RAM) โดยมีคุณสมบัติเด่นดังนี้:

• แสดงค่า FPS แบบเรียลไทม์ พร้อมกราฟแสดงความเปลี่ยนแปลงของเฟรมเรต
• แยกเฟรมที่สร้างจากเทคโนโลยี DLSS หรือ FSR ออกจากเฟรมเรตจริงของเกม
• แสดงค่าต่ำสุด/สูงสุดของเฟรมเดียว (min/max frame time)
• แสดงการใช้งาน CPU และ GPU แบบละเอียด รวมถึงการใช้งานหน่วยความจำระบบ
• ปรับแต่งระดับความละเอียดของข้อมูลได้ 4 ระดับ ตั้งแต่แสดงค่า FPS เดี่ยว ไปจนถึงรายละเอียดเต็มรูปแบบของ FPS, CPU, GPU และ RAM

ปรับแต่งได้ตามใจ

ผู้ใช้สามารถปรับแต่งขนาด ตำแหน่ง สี ความทึบของพื้นหลัง และขนาดตัวอักษรของหน้าต่างแสดงผลได้อย่างอิสระ เพื่อให้เหมาะกับสไตล์การเล่นของแต่ละคน ไม่ว่าจะต้องการให้เด่นชัดหรือกลมกลืนไปกับฉากในเกม นอกจากนี้ยังสามารถเปิดกราฟแสดงการใช้งาน CPU แยกตามคอร์ และกราฟ FPS แบบเรียลไทม์ได้อีกด้วย

วิธีเปิดใช้งาน

สามารถเปิดใช้งาน Performance Monitor ได้โดยไปที่ Settings → In-Game → Performance Overlay จากนั้นสามารถตั้งค่าขนาด ตำแหน่ง และคีย์ลัดสำหรับเปิด/ปิดหน้าต่างแสดงผลได้ตามต้องการ

อนาคตของฟีเจอร์นี้

Valve ระบุว่านี่เป็นเพียงก้าวแรกของการพัฒนาเครื่องมือช่วยวิเคราะห์ประสิทธิภาพเกม โดยในอนาคตจะมีการเพิ่มข้อมูลเพิ่มเติม เช่น การตรวจจับปัญหาฮาร์ดแวร์ที่พบบ่อย และสรุปภาพรวมประสิทธิภาพของเกมเมื่อกด Shift+Tab

อย่างไรก็ตาม เวอร์ชันแรกนี้จะรองรับเฉพาะผู้ใช้ Windows และฮาร์ดแวร์ GPU ที่พบได้ทั่วไปก่อน ส่วนผู้ใช้แพลตฟอร์มอื่นหรือการ์ดจอรุ่นเก่าอาจยังไม่สามารถใช้งานฟีเจอร์นี้ได้เต็มรูปแบบ

สำหรับเกมเมอร์สายเทคนิคหรือผู้ที่ต้องการเข้าใจปัญหาการกระตุกหรือเฟรมเรตตกอย่างลึกซึ้ง ฟีเจอร์นี้ถือเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังและใช้งานง่ายในตัวเดียวกับ Steam Client