ไมโครซอฟท์เปิดใช้งาน Hotpatch บนอุปกรณ์ Windows 11 Arm64 แล้ว – อัปเดตความปลอดภัยแบบไม่ต้องรีสตาร์ทเครื่อง
Microsoft ประกาศข่าวดีสำหรับผู้ใช้งาน Windows 11 บนสถาปัตยกรรม Arm64 ฟีเจอร์ Hotpatching ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการอัปเดตความปลอดภัยที่ไม่จำเป็นต้องรีสตาร์ทเครื่อง ได้เปิดให้ใช้งานอย่างเป็นทางการแล้วใน Windows 11, เวอร์ชั่น 24H2 สำหรับอุปกรณ์ Arm64 ทุกเครื่อง นับเป็นการยกระดับการจัดการความปลอดภัยและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้แก่ผู้ใช้งานในองค์กรได้อย่างมาก
Hotpatching คืออะไร? ทำไมถึงสำคัญ?
Hotpatching คือเทคโนโลยีการอัปเดตที่ช่วยให้ระบบสามารถติดตั้งแพตช์ความปลอดภัยได้โดยตรงกับโค้ดที่ทำงานอยู่ในหน่วยความจำ โดยไม่จำเป็นต้องปิดหรือรีสตาร์ทอุปกรณ์ เทคโนโลยีนี้แตกต่างจากการอัปเดตแบบดั้งเดิมที่มักจะต้องมีการรีสตาร์ทเครื่องเพื่อให้การเปลี่ยนแปลงมีผลสมบูรณ์
ความสำคัญของ Hotpatching:
- ลด Downtime: ผู้ใช้งานสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ต้องหยุดชะงักเพื่อรอการรีสตาร์ทเครื่อง ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานไม่สะดุด
- เพิ่มความปลอดภัย: การอัปเดตความปลอดภัยสามารถนำไปใช้ได้ทันที ลดช่วงเวลาที่ระบบมีความเสี่ยง (window of vulnerability) จากช่องโหว่ต่างๆ
- การจัดการที่ง่ายขึ้น: ด้วยขนาดแพตช์ที่เล็กลงและการติดตั้งที่รวดเร็ว ช่วยให้การจัดการการอัปเดตในองค์กรทำได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ประโยชน์ที่องค์กรจะได้รับจากการใช้งาน Hotpatching บน Arm64
ตั้งแต่ Hotpatching เปิดตัวบนอุปกรณ์ x64 ในเดือนเมษายน 2025 ก็ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากผู้ใช้งานหลายล้านคน ด้วยเสียงตอบรับเชิงบวกที่เน้นย้ำถึงคุณค่าที่ Hotpatching มอบให้ ไม่ว่าจะเป็นการลด Downtime และการจัดการแพตช์ที่คล่องตัวขึ้น
“ด้วย Hotpatch และฟีเจอร์ Autopatch เราได้เห็นระบบที่ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น พร้อมลดการหยุดทำงานและปรับปรุงการจัดการแพตช์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น” — Pat Macfarlane, Senior Workstation Engineer, TriNet USA, Inc.
ปัจจุบัน อุปกรณ์ที่ใช้สถาปัตยกรรม Arm64 ก็จะได้รับประโยชน์เหล่านี้เช่นกัน องค์กรของคุณจะได้รับประโยชน์จาก:
- การปฏิบัติตามข้อกำหนดที่รวดเร็วขึ้น (Faster compliance): การอัปเดตความปลอดภัยถูกนำไปใช้ทันที ช่วยลดช่วงเวลาที่ระบบมีความเสี่ยง
- ไม่มีการหยุดทำงาน (No downtime): ผู้ใช้งานยังคงทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่มีการบังคับรีสตาร์ทหรือการขัดจังหวะ
- Payload การอัปเดตที่เล็กลง (Smaller update payloads): การติดตั้งทำได้เร็วขึ้นและง่ายต่อการประสานงานการอัปเดต
- การควบคุมระดับองค์กร (Enterprise-grade control): ผสานรวมกับ Microsoft Intune และ Windows Autopatch เพื่อการจัดการที่คล่องตัว
ขั้นตอนการเตรียมอุปกรณ์ Arm64 ให้พร้อมสำหรับ Hotpatching
การเปิดใช้งาน Hotpatching บนอุปกรณ์ Arm64 ของคุณนั้นง่ายดาย เพียงตรวจสอบข้อกำหนดเบื้องต้นและดำเนินการตามขั้นตอนเล็กน้อย
ข้อกำหนดเบื้องต้น:
- อุปกรณ์: ต้องเป็นอุปกรณ์ที่รัน Windows 11 Enterprise, เวอร์ชั่น 24H2 (Build 26100.2033 หรือใหม่กว่า) พร้อมติดตั้งการอัปเดตพื้นฐานล่าสุด
- การจัดการ: ใช้ Microsoft Intune สำหรับการจัดการการปรับใช้การอัปเดต Hotpatch ด้วยนโยบายการอัปเดตคุณภาพของ Windows ที่เปิดใช้งาน Hotpatching
- สิทธิ์การใช้งาน: ต้องมีสิทธิ์การใช้งาน Windows 11 Enterprise E3 หรือ E5, Microsoft 365 F3, Windows 11 Education A3 หรือ A5, Microsoft 365 Business Premium หรือ Windows 365 Enterprise
- ความปลอดภัย: เปิดใช้งาน Virtualization-based security (VBS)
- การกำหนดค่าพิเศษสำหรับ Arm64: ต้องปิดใช้งาน Compiled Hybrid PE (CHPE) ซึ่งเป็นข้อกำหนดเฉพาะสำหรับอุปกรณ์ Arm64
การตั้งค่าครั้งเดียว: ปิดใช้งาน CHPE เพื่อเปิดใช้งาน Hotpatch บน Arm64
CHPE เป็นเลเยอร์ความเข้ากันได้ที่ใช้สำหรับการจำลอง x86 แต่ไม่เข้ากันกับการอัปเดต Hotpatch การปิดใช้งาน CHPE สามารถทำได้ง่ายๆ ผ่านการตั้งค่า CSP หรือ Registry Key
1. การใช้ DisableCHPE policy: ปรับใช้การตั้งค่า Configuration Service Provider (CSP) ผ่าน Microsoft Intune หรือ Group Policy และรีสตาร์ทอุปกรณ์หนึ่งครั้ง:
./Device/Vendor/MSFT/Policy/Config/Hotpatch/DisableCHPE = 1
เลือกตัวเลือก “CHPE Binaries Disabled” จาก “Disabled CHPE” CSP ใน Settings catalog

2. การใช้ Registry Key: ตั้งค่า Registry Key ด้านล่างนี้เป็น 1 แล้วรีสตาร์ทอุปกรณ์หนึ่งครั้ง:
HKLM\SYSTEM\CurrentControlSet\Control\Session Manager\Memory Management\HotPatchRestrictions = 1
ผลกระทบของการปิดใช้งาน CHPE
เมื่อปิดใช้งาน CHPE:
- อุปกรณ์ Arm64 ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมและลงทะเบียนไว้จะได้รับการอัปเดต Hotpatch
- คุณยังคงสามารถรันแอปพลิเคชัน x86 ในโหมดจำลองบน Arm64 ได้
- อาจมีความแตกต่างด้านประสิทธิภาพขึ้นอยู่กับปริมาณงานและสภาพแวดล้อมของคุณ แนะนำให้ทำการทดสอบในสภาพแวดล้อมของคุณก่อนการปรับใช้ในวงกว้าง เพื่อทำความเข้าใจและลดผลกระทบด้านประสิทธิภาพที่อาจเกิดขึ้น
วิธีการลงทะเบียนอุปกรณ์ Arm64 ใน Hotpatching
การลงทะเบียนอุปกรณ์เพื่อรับการอัปเดต Hotpatch สามารถทำได้ผ่าน Microsoft Intune admin center:
- ไปที่ Microsoft Intune admin center
- นำทางไปที่ Devices > Windows updates > Quality updates
- สร้างนโยบายใหม่โดยเลือก Create Windows quality update policy หรือแก้ไขนโยบายที่มีอยู่โดยเลือกจากรายการภายใต้ Name และเลือก Edit ถัดจาก Settings
- ใต้ Automatic update deployment settings ตรวจสอบให้แน่ใจว่าตัวเลือก “When available, apply without restarting the device” ถูกตั้งค่าเป็น Allow
- กำหนดนโยบายให้กับกลุ่มอุปกรณ์ Arm64 ของคุณ
สรุป และความเห็นของเรา
การมาถึงของ Hotpatching บนสถาปัตยกรรม Arm64 ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในการจัดการความปลอดภัยของ Windows 11 โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับองค์กรที่ต้องการลด Downtime และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน
- ความได้เปรียบทางเทคนิค: Hotpatching สะท้อนให้เห็นถึงความก้าวหน้าทางวิศวกรรมของ Microsoft ในการจัดการระบบปฏิบัติการให้มีความยืดหยุ่นและตอบสนองต่อภัยคุกคามได้ทันท่วงที โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการเพิ่มขึ้นของอุปกรณ์ Arm64 ที่เน้นการประหยัดพลังงานและการเชื่อมต่อที่ต่อเนื่อง
- ผลกระทบต่อองค์กร: ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้ทีม IT สามารถจัดการการอัปเดตความปลอดภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดภาระงานในการวางแผนการรีสตาร์ท และช่วยให้ผู้ใช้งานไม่ถูกขัดจังหวะการทำงาน
- ข้อควรพิจารณา: แม้ว่า Hotpatching จะมีประโยชน์มหาศาล แต่การปิดใช้งาน CHPE อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของบางแอปพลิเคชันที่ยังคงต้องพึ่งพาการจำลอง x86 อย่างหนัก จึงเป็นสิ่งสำคัญที่องค์กรควรทำการทดสอบอย่างละเอียดในสภาพแวดล้อมของตนก่อนการปรับใช้จริง เพื่อประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นและวางแผนการย้ายข้อมูลหรือการปรับใช้แอปพลิเคชันให้เหมาะสม
Hotpatching สำหรับ Arm64 ไม่ใช่เพียงแค่การอัปเดตเล็กๆ น้อยๆ แต่เป็นการปฏิวัติวิธีที่เราจัดการกับความปลอดภัยของระบบในยุคปัจจุบัน เป็นก้าวสำคัญที่ช่วยให้องค์กรสามารถ “ปลอดภัยขึ้น ฉลาดขึ้น อัปเดตเร็วขึ้น และรีสตาร์ทน้อยลง” อย่างแท้จริง
ข้อมูล: Tech Community | Microsoft

You must be logged in to post a comment.