ByteDance
|

ByteDance มูลค่าพุ่งแตะ 5 แสนล้านดอลลาร์ หลังปิดดีล TikTok US หนีแรงกดดันการเมืองสหรัฐ–จีน

มูลค่ากิจการ ByteDance ในตลาดรองถูกประเมินขึ้นไปถึงราว 5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังความคืบหน้าดีล TikTok ฝั่งสหรัฐชัดเจนมากขึ้น ทำให้นักลงทุนเชื่อว่าบริษัทสามารถรักษาเครื่องจักรทำเงินตัวหลักอย่าง TikTok ในตลาดอเมริกาได้ต่อไป

ดีลนี้เกิดขึ้นหลัง ByteDance ลงนามข้อตกลงผูกพัน (binding agreement) เพื่อจัดตั้งกิจการร่วมค้า (joint venture) TikTok US ที่มีนักลงทุนอเมริกันถือหุ้นเสียงข้างมาก ลดความกังวลเรื่องอิทธิพลจากจีนและความเสี่ยงถูกสั่งแบนในสหรัฐ

โครงสร้างดีลใหม่ของ TikTok US

กิจการร่วมค้า TikTok US ใหม่จะถูกถือหุ้น 50% โดยกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ฝั่งสหรัฐ ได้แก่ Oracle, Silver Lake และ MGX ซึ่งแต่ละรายถือหุ้นราว 15% รวมกันเป็นบล็อกอำนาจหลักของดีล ขณะที่ ByteDance ถือหุ้นโดยตรงราว 19.9% และส่วนที่เหลือกว่า 30% เป็นของกลุ่มนักลงทุนเดิมใน ByteDance ที่เป็นผู้ถือหุ้นอเมริกัน

โครงสร้างนี้ทำให้ TikTok US กลายเป็นนิติบุคคลที่ถือว่า “ส่วนใหญ่เป็นของอเมริกัน” ตามโจทย์ด้านความมั่นคงของวอชิงตัน แต่ยังเปิดช่องให้ ByteDance และผู้ถือหุ้นเดิมเก็บเกี่ยวผลตอบแทนจากธุรกิจ TikTok ในสหรัฐต่อไปได้อย่างมีนัยสำคัญ

กลไกด้านความมั่นคงและบทบาท Oracle

Oracle จะทำหน้าที่เป็น “trusted security partner” หรือพาร์ตเนอร์ด้านความปลอดภัยที่รัฐบาลสหรัฐยอมรับ รับผิดชอบดูแลและเก็บข้อมูลผู้ใช้ TikTok ในสหรัฐบนดาต้าเซ็นเตอร์ในประเทศ รวมถึงทำหน้าที่ตรวจสอบและรับรองว่า TikTok ปฏิบัติตามเงื่อนไขด้านความมั่นคงแห่งชาติที่ตกลงไว้

ระบบแนะนำเนื้อหาของ TikTok เวอร์ชันสหรัฐจะถูกเทรนใหม่โดยอิงบนข้อมูลผู้ใช้ชาวอเมริกันเป็นหลัก เพื่อลดความเสี่ยงการถูกแทรกแซงหรือชี้นำจากปัจจัยภายนอก ขณะที่ทีม TikTok US จะรับผิดชอบด้านการกลั่นกรองคอนเทนต์และความปลอดภัยของซอฟต์แวร์ในฝั่งอเมริกาโดยตรง

ตัวเลขรายได้–กำไรที่หนุนมูลค่า 5 แสนล้าน

ByteDance ทำกำไรรวม (net income) ราว 40,000 ล้านดอลลาร์ ในช่วงสามไตรมาสแรกของปี 2025 และมีแนวโน้มปิดปีด้วยกำไรกว่า 50,000 ล้านดอลลาร์ ใกล้เคียงกับระดับกำไรของ Meta ที่คาดไว้ราว 60,000 ล้านดอลลาร์ในปีเดียวกัน

ฝั่งรายได้ ByteDance ตั้งเป้ารายได้ปี 2025 ราว 186,000 ล้านดอลลาร์ โตประมาณ 20% จากปี 2024 ที่อยู่ราว 155,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเข้าใกล้รายได้ที่คาดการณ์ของ Meta ที่ราว 200,000 ล้านดอลลาร์ สะท้อนว่าบริษัทสัญชาติจีนรายนี้ขึ้นมาอยู่ระดับเดียวกับยักษ์โซเชียลอเมริกันทั้งด้านสเกลและความสามารถทำกำไร

แรงขับจากอีคอมเมิร์ซและ TikTok Shop

การเติบโตของ ByteDance ไม่ได้พึ่งแค่โฆษณา แต่ขับเคลื่อนอย่างหนักจากธุรกิจอีคอมเมิร์ซและไลฟ์ขายของ โดยเฉพาะ TikTok Shop ที่คาดว่าจะทำยอดขายในสหรัฐทะลุ 20,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2026 กลายเป็นเสาหลักใหม่ของโมเดลรายได้

แม้เผชิญความเสี่ยงทางการเมืองและกฎหมายถึงขั้นเกือบถูกแบนในสหรัฐ แต่ TikTok ยังขยายฐานผู้ใช้ในอเมริกาได้ต่อเนื่อง ปัจจุบันมีผู้ใช้มากกว่า 170 ล้านบัญชี และเดินหน้าดีลเชิงกลยุทธ์กับบริษัทใหญ่ในสหรัฐ ทั้งในด้านโฆษณาและอีคอมเมิร์ซ ทำให้ ByteDance ยิ่งถูกมองว่าเป็นแพลตฟอร์มระดับอินฟราสตรักเจอร์ของเศรษฐกิจครีเอเตอร์ยุคใหม่