แนวโน้มที่น่ากังวล AMD และ NVIDIA อาจลดหรือยกเลิกการผลิตการ์ดจอระดับกลาง-ล่าง เนื่องจากวิกฤตหน่วยความจำ GDDR พุ่งสูง
ในช่วงปลายปี 2025 ตลาดการ์ดจอสำหรับเกมเมอร์กำลังเผชิญกับข่าวร้ายครั้งใหญ่ จากรายงานของสื่อเกาหลีอย่าง Hankyung และเว็บไซต์เทคโนโลยีชั้นนำอย่าง Wccftech, TechSpot และ Tom’s Hardware ระบุว่า AMD และ NVIDIA กำลังพิจารณาลดกำลังการผลิตหรือแม้แต่ยกเลิกการ์ดจอในเซกเมนต์ระดับกลาง (mid-range) และระดับเริ่มต้น (entry-level) โดยสิ้นเชิง เนื่องจากต้นทุนหน่วยความจำ GDDR6/GDDR7 พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้กำไรในกลุ่มสินค้าราคาถูกเหลือน้อยหรือขาดทุน
สาเหตุหลัก: วิกฤตหน่วยความจำจากความต้องการของ AI ที่กินกำลังการผลิตทั้งหมด
ปัญหาไม่ได้เกิดจากยอดขายการ์ดจอตกต่ำ แต่มาจากการขาดแคลนชิปหน่วยความจำ DRAM อย่างรุนแรง ซึ่งผู้ผลิตชิปหน่วยความจำรายใหญ่ของโลกอย่าง Samsung, SK Hynix และ Micron ต่างหันไปเน้นผลิต HBM (High Bandwidth Memory) สำหรับตลาด AI และเซิร์ฟเวอร์แทน GDDR ที่ใช้ในการ์ดจอเล่นเกม
- HBM มีกำไรสูงกว่ามาก เพราะความต้องการจาก AI (เช่น NVIDIA H100/H200, Blackwell) พุ่งทะยาน ทำให้กำลังการผลิต DRAM ทั้งหมดถูกจัดสรรไปที่HBM
- ผลคือ GDDR6 และ GDDR7 สำหรับการ์ดจอทั่วไปขาดแคลนหนัก ราคาพุ่งขึ้น โดยเพิ่มกว่า 172% ในปี 2025 (บางรายงานระบุเพิ่ม 30-90% ในเวลาไม่กี่เดือน)
- ผู้ผลิตหน่วยความจำอย่าง SK Hynix ประกาศเพิ่มกำลังผลิต DRAM ถึง 8 เท่าในปีหน้า แต่ก็ยังไม่พอต่อความต้องการ ทำให้ GDDR ยังคงขาดแคลนต่อเนื่องถึงปี 2026-2027
สำหรับการ์ดจอระดับกลาง-ต่ำ เช่น RTX 5060, RTX 5070, RX 9060 XT หรือ RX 9070 ที่มีต้นทุนหน่วยความจำคิดเป็นสัดส่วนสูงของ Bill of Materials (BOM) เมื่อราคา GDDR พุ่ง กำไรแทบไม่เหลือ บางรุ่นอาจขาดทุนหากยังขายในราคาเดิม
รุ่นที่เสี่ยงถูกตัดหรือเลื่อนมากที่สุด
- NVIDIA: RTX 50-series ระดับกลาง เช่น RTX 5060, RTX 5070, รวมถึง RTX 50 SUPER (ที่ต้องการชิป GDDR7 3GB ซึ่งขาดแคลนหนักจนมีข่าวยกเลิกทั้งไลน์อัพมาแล้ว)
- AMD: RX 9000 series ระดับกลาง เช่น RX 9060 XT, RX 9070 ซึ่งเดิมวางตำแหน่งราคาถูกแต่ตอนนี้ต้นทุนสูงเกินไป
- ผู้ผลิตพาร์ทเนอร์อย่าง ASUS, MSI ยอมรับว่ากำลังทบทวนแผนลดสเปก VRAM หรือยกเลิกบางรุ่นเพื่อรักษากำไร
หลายแหล่งคาดว่าราคาการ์ดจอทั้งตลาดจะปรับขึ้นในช่วงธันวาคม 2025 – มกราคม 2026 และอาจไม่มีตัวเลือกสำหรับรุ่นราคาประหยัดให้เกมเมอร์ทั่วไป
ผลกระทบต่อตลาดเกมมิ่งพีซี
- เกมเมอร์ระดับที่ต้องการการ์ดจอระดับเริ่มต้น-กลางได้รับผลกระทบหนักที่สุด: เดิมหวังประกอบเครื่องราคาไม่เกิน 20,000-30,000 บาท อาจต้องหันไปใช้ iGPU ใน CPU เป็นการชั่วคราวก่อน เพื่อเก็บเงินเพิ่มสำหรับการ์ดจอรุ่นที่สูงขึ้น หรือไม่ก็ไปซื้อการ์ดจอมือสองจากยุคก่อน
- ตลาด high-end ยังรอด: เพราะกำไรสูง สามารถดูดซับต้นทุน GDDR ได้ (เช่น RTX 5080/5090 ยังผลิตต่อ)
- วิกฤตนี้ถูกเปรียบเทียบกับ “ยุคขาดแคลนชิปสมัย COVID” แต่ครั้งนี้อาจยาวนานกว่า เพราะความต้องการของ AI ไม่มีทีท่าลดลง และคาดว่าจะกินกำลังการผลิตต่อเนื่องถึงปี 2027
คำแนะนำสำหรับคนที่กำลังมองหาการ์ดจอ
- ถ้าต้องการการ์ดจอระดับกลาง-เริ่มต้น ในราคาไม่แพงมาก รีบซื้อตอนนี้เลย (โดยเฉพาะช่วงเทศกาลปลายปี 2025 แอปช็อปปิ้งต้องการยอดปลายปีอาจจะมีคูปองส่วนลดเพิ่ม) เพราะหลังจากนี้ราคาอาจพุ่ง 20-50% หรือบางรุ่นหายไปจากตลาด
- พิจารณาทางเลือกอย่าง Intel Arc (ที่ยังเน้นเซกเมนต์ราคาถูก)
สรุปคือ AI ไม่ได้แค่ “กินไฟ” และ “กิน GPU” อีกต่อไป แต่กำลัง “กินหน่วยความจำ” ทั้งอุตสาหกรรม ทำให้เกมเมอร์ที่ไม่ได้กำลังทรัพย์มากนักต้องเผชิญกับยุคที่การ์ดจอราคาถูกอาจกลายเป็นของหายาก ถ้าสถานการณ์ไม่ดีขึ้น เราอาจเห็นตลาดการ์ดจอแบ่งชั้นชัดเจน: มีแค่รุ่นแพงสำหรับคนมีเงิน กับ iGPU สำหรับคนทั่วไปเท่านั้น ซึ่งหนักกว่าช่วงโควิดอีก ก็คือย้อนไปเหมือนสมัยขุดเหมือนกันเลยทีเดียว แต่ก็คิดว่าราคาคงไม่ได้พุ่งกันไปขนาดนั้น
ข้อมูล: wccftech
