LPDDR5X Cover

ความต้องการหน่วยความจำ LPDDR5X ของ NVIDIA อาจทำให้ราคาแรมมือถือและเซิร์ฟเวอร์พุ่งสองเท่าในปี 2026

ข่าวจาก Tom’s Hardware (โดย Anton Shilov) รายงานว่า ความต้องการหน่วยความจำสำหรับ AI ที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจาก Nvidia กำลังสร้าง “การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่” (seismic shift) ให้กับตลาดหน่วยความจำ DRAM ทำให้ราคาแรมทั่วไปพุ่งสูง และลามไปถึงแรมสำหรับสมาร์ทโฟนที่ก่อนหน้านี้ยังปลอดภัยจากวิกฤต AI

สถานการณ์ราคา DRAM ปัจจุบันและคาดการณ์

  • ตั้งแต่ต้นปี 2025 ราคา DRAM ทั่วไป (commodity DRAM) ปรับตัวสูงขึ้นแล้วราว 50%
  • คาดว่าราคาจะขึ้นอีก 30% ในไตรมาส 4 ปี 2025 และอีก 20% ในช่วงต้นปี 2026
  • ราคาแรมเซิร์ฟเวอร์ DDR5 อาจ เพิ่มขึ้นสองเท่า เมื่อเทียบปีต่อปีภายในสิ้นปี 2026 (เช่น โมดูล DDR5 RDIMM 64GB อาจแพงขึ้น 100% จากต้นปี 2025)
  • ตัวอย่างราคาตลาด spot: ชิป DDR5 16GB ราคาเฉลี่ยจาก 6.84 ดอลลาร์ (กันยายน 2025) พุ่งไป 24.83 ดอลลาร์ (พฤศจิกายน 2025)

สาเหตุหลัก: Nvidia หันมาใช้ LPDDR5X ใน CPU สำหรับ AI

  • Nvidia ใช้หน่วยความจำ LPDDR5X (เดิมเป็นแรมมือถือประหยัดพลังงาน) ใน CPU รุ่น Grace และจะเพิ่มปริมาณในรุ่น Vera ที่กำลังจะมา
  • หนึ่งเครื่องเซิร์ฟเวอร์ Grace ใช้ LPDDR5X สูงถึง 480GB (เทียบกับสมาร์ทโฟนพรีเมียมที่ใช้แค่ 16GB) และรุ่นใหม่จะใช้มากกว่านี้เกือบสองเท่า
  • ความต้องการจาก Nvidia เทียบเท่ากับ “ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่รายหนึ่ง” ทำให้ซัพพลายเชนรับไม่ไหว

นาย Hwang นักวิจัยจาก Counterpoint Research กล่าวว่า

“ความเสี่ยงที่ใหญ่กว่ากำลังมา คือ Nvidia หันมาใช้ LPDDR ทำให้บริษัทนี้กลายเป็นลูกค้าระดับเดียวกับผู้ผลิตสมาร์ทโฟนยักษ์ใหญ่ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ซัพพลายเชนรับมือได้ยาก”

ผลกระทบต่อสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์ผู้บริโภค

  • สมาร์ทโฟนระดับกลาง-ล่างที่ใช้ LPDDR4 จะได้รับผลกระทบก่อน
  • สมาร์ทโฟนระดับกลางถึงพรีเมียมอาจมีต้นทุนวัสดุ (BOM) เพิ่มขึ้นราว 25% ทำให้กำไรผู้ผลิตลดลง หรือต้องขึ้นราคาขายปลีก
  • ผู้บริหาร SMIC (โรงงานผลิตชิปใหญ่ของจีน) เตือนว่า ปัญหาขาดแคลน DRAM จะกระทบผู้ผลิตรถยนต์ สมาร์ทโฟน และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคเร็วกว่าที่คิด ลูกค้าหลายรายเริ่มลังเลที่จะสั่งซื้อชิปตรรกะ (logic chip) เพราะไม่แน่ใจว่าจะหาแรมมาใส่ได้พอหรือไม่

สรุป

วิกฤตหน่วยความจำจาก AI ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ HBM หรือแรมเซิร์ฟเวอร์อีกต่อไป แต่กำลังลามมาถึงแรมมือถือ LPDDR5X ด้วย คาดว่าราคาแรมทั้งเซิร์ฟเวอร์และสมาร์ทโฟนจะพุ่งสูงต่อเนื่องตลอดปี 2026 ส่งผลให้ราคาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกประเภทมีแนวโน้มแพงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ที่มา: Tom’s Hardware