Qualcomm หวนคืนตลาดดาต้าเซ็นเตอร์ ลุยพัฒนาซีพียู ARM สำหรับงาน AI โดยเฉพาะ ผนึกกำลัง NVIDIA ผ่านเทคโนโลยี NVLink Fusion
ควอลคอมม์ (Qualcomm) ประกาศแผนการกลับมาบุกตลาดดาต้าเซ็นเตอร์อีกครั้งอย่างเป็นทางการ ด้วยการพัฒนาซีพียูสถาปัตยกรรม ARM ที่มุ่งเน้นสำหรับงานประมวลผลปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยเฉพาะ กลยุทธ์ที่น่าสนใจคือการจับมือเป็นพันธมิตรกับ Nvidia เพื่อใช้เทคโนโลยี NVLink Fusion ที่จะช่วยให้ซีพียูสามารถเชื่อมต่อกับ GPU ได้โดยตรงด้วยแบนด์วิธที่สูงกว่าการเชื่อมต่อผ่าน PCIe แบบเดิมอย่างมีนัยสำคัญ การประกาศครั้งนี้ถือเป็นการกลับมาอีกครั้งหลังจากที่ควอลคอมม์เคยถอนตัวจากโครงการซีพียูเซิร์ฟเวอร์ Centriq ไปเมื่อปี 2019
คุณคริสเตียโน อะมอน ซีอีโอของควอลคอมม์เปิดเผยระหว่างการประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2025 ว่าบริษัทกำลังอยู่ในระหว่าง “การเจรจาขั้นสูง” กับผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่ (hyperscaler) เพื่อพัฒนาชิปแบบ Custom สำหรับโครงสร้างพื้นฐานดาต้าเซ็นเตอร์ โดยควอลคอมม์คาดว่าจะเริ่มมีรายได้จากธุรกิจใหม่นี้ในปีงบประมาณ 2028 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เปิดโอกาสให้ทีมวิศวกรสามารถปรับแต่งผลิตภัณฑ์ให้มีความพร้อมในการแข่งขันในตลาดที่มีความดุเดือดสูงได้
กลยุทธ์สำคัญ: การร่วมมือกับ Nvidia และ NVLink Fusion
หัวใจสำคัญของแผนการครั้งนี้คือการที่ควอลคอมม์ได้ยืนยันความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ Nvidia โดยผ่านโครงการ NVLink Fusion ที่เคยเปิดตัวในงาน Computex 2025 ทำให้ซีพียูของควอลคอมม์สามารถเชื่อมต่อกับ GPU ของ Nvidia ได้โดยตรงด้วยอินเตอร์คอนเน็กต์ความเร็วสูง ซึ่งมีแบนด์วิธที่สูงกว่าการเชื่อมต่อ PCIe แบบดั้งเดิมหลายเท่าตัว
แนวทางนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเข้าใจในตลาดดาต้าเซ็นเตอร์ยุคใหม่ที่เน้นไปที่ “ประสิทธิภาพต่อวัตต์” และ “ประสิทธิภาพต่อค่าใช้จ่าย” (tokens per watt, tokens per dollar) มากกว่าประสิทธิภาพดิบเพียงอย่างเดียว ด้วยเหตุนี้ ควอลคอมม์จึงวางตัวเองเป็นผู้เล่นที่เข้ามาเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับ Ecosystem ของ Nvidia มากกว่าจะเป็นคู่แข่งโดยตรง ตัวอย่างการใช้งานจริงครั้งแรกคือการนำไปใช้ในโครงการ HUMAIN AI ในซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์คลาวด์และ AI ระดับชาติ ซึ่งช่วยเป็นเสมือนสนามทดสอบสำหรับโครงสร้างพื้นฐานปัญญาประดิษฐ์ภายใต้การควบคุมของรัฐ (sovereign AI)
ต่อยอดความสำเร็จและจิ๊กซอว์การเข้าซื้อกิจการ
การกลับมาครั้งนี้ไม่ได้เริ่มต้นจากศูนย์ ควอลคอมม์ได้นำประสบการณ์และความเชี่ยวชาญจากการเข้าซื้อ Nuvia ในปี 2021 มาใช้ โดยนำสถาปัตยกรรมซีพียู Oryon ที่พัฒนาสำหรับพีซีประสิทธิภาพสูงมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับเวิร์กโหลดฝั่งเซิร์ฟเวอร์ที่ต้องการความสมดุลระหว่างสมรรถนะและการใช้พลังงาน นอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากดีลการเข้าซื้อกิจการ Alphawave Semi มูลค่า 2.4 พันล้านดอลลาร์ในเดือนมิถุนายน 2025 เพื่อเสริมความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีชิปเล็ตและอินเตอร์คอนเน็กต์ความเร็วสูง ซึ่งเป็นการปูทางสู่การสร้างโปรเซสเซอร์แบบมัลติคอร์ที่ซับซ้อนสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ระดับ Hyperscale ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ความท้าทายในตลาดและบทเรียนจากอดีต
ถึงแม้จะมีกลยุทธ์ที่น่าสนใจ แต่ควอลคอมม์ยังต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายที่สำคัญ ตลาดเซิร์ฟเวอร์ในปัจจุบันยังคงถูกครอบงำโดย Intel Xeon และ AMD EPYC ในขณะที่ผู้เล่นที่ใช้สถาปัตยกรรม ARM รายอื่น เช่น Ampere และโซลูชันที่พัฒนาขึ้นเองของผู้ให้บริการคลาวด์ก็กำลังขยายพอร์ตอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
ควอลคอมม์เคยมีบทเรียนจากการบุกตลาดนี้มาแล้วกับ Centriq 2400 ในปี 2017 แต่ต้องถอนตัวเนื่องจากปัญหาทางธุรกิจในขณะนั้น ปฏิกิริยาของตลาดต่อแผนการครั้งล่าสุดนี้ยังคงค่อนข้างระมัดระวัง ราคาหุ้นมีความผันผวนหลังจากการประกาศ และเส้นเวลาการรับรู้รายได้ในปี 2028 ที่ค่อนข้างยาวนาน ทำให้เกิดคำถามว่าควอลคอมม์จะสามารถไล่ตามผู้เล่นรายอื่นที่สร้างฐานระบบ AI มานานหลายปีได้ทันหรือไม่
การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์และการตลาด
การกลับมาสู่ตลาดดาต้าเซ็นเตอร์ของควอลคอมม์ครั้งนี้เป็นความพยายามที่ชัดเจนในการกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะที่รายได้จากธุรกิจสมาร์ทโฟนต้องเผชิญกับแรงกดดันจากการที่ Apple พัฒนาโมเด็มภายในเอง และ Samsung เตรียมเปิดตัวชิป SoC ระดับ High-end รุ่นใหม่ในปี 2026
หากแผนการนี้ประสบความสำเร็จ แพลตฟอร์มซีพียู ARM ที่เชื่อมต่อกับ GPU ของ Nvidia ผ่าน NVLink Fusion อาจกลายเป็นอีกหนึ่งแกนหลักของโครงสร้างพื้นฐาน AI ในอนาคต โดยเฉพาะในดาต้าเซ็นเตอร์ที่ต้องการสเกลเอาต์ (scale-out) พร้อมกับประสิทธิภาพต่อวัตต์ที่เหนือกว่าเดิม การทำดีลกับ HUMAIN AI ยังเป็นเครื่องพิสูจน์โมเดลการใช้งานในบริบทของ “sovereign AI” ซึ่งเป็นเทรนด์สำคัญที่หลายประเทศให้ความสนใจ
สรุป
โดยสรุปแล้ว ควอลคอมม์กำลังวางหมากระยะยาวในตลาดดาต้าเซ็นเตอร์ด้วยการพัฒนาซีพียู ARM ที่ออกแบบมาเพื่อ AI โดยเฉพาะ พร้อมกับการผนึกกำลังกับ Nvidia เพื่อสร้างจุดเด่นด้านแบนด์วิธการเชื่อมต่อระดับสูง และการใช้ทรัพยากรจากการเข้าซื้อกิจการ Nuvia และ Alphawave Semi เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในด้านคอร์ซีพียูแบบ Custom และเทคโนโลยีชิปเล็ต แม้จะมีอุปสรรคด้านการแข่งขันและระยะเวลาที่ต้องรอ แต่หากประสบความสำเร็จ ควอลคอมม์ก็อาจจะกลับมามีบทบาทสำคัญในตลาดดาต้าเซ็นเตอร์ในฐานะผู้เล่นหลักในระบบนิเวศ AI ร่วมกับ Nvidia ได้อย่างแข็งแกร่ง
ข้อมูล: TechradarPro
