ที่งาน Google Cloud Next 2025 ทาง Google ได้ประกาศเปิดตัว Agent2Agent (A2A) โปรโตคอลแบบเปิดตัวใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อให้ AI Agents จากแพลตฟอร์ม ผู้พัฒนา และเทคโนโลยีที่แตกต่างกันสามารถสื่อสารและทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น A2A มีเป้าหมายเพื่อลดกำแพงที่ขวางกั้นระบบ AI ในปัจจุบัน ช่วยให้ AI Agents สามารถแชร์บริบท มอบหมายงาน และประสานการทำงานข้ามแพลตฟอร์มได้ โดยไม่ถูกจำกัดด้วยที่มาหรือเทคโนโลยีที่ใช้พัฒนา ถือเป็นส่วนหนึ่งของวิสัยทัศน์ของ Google ที่ต้องการสร้าง “ระบบนิเวศแบบ multi-agent” เพื่อยกระดับการทำงานร่วมกันในระดับองค์กร
A2A ถูกพัฒนาขึ้นโดยอิงจากมาตรฐานที่มีอยู่ เช่น HTTP, SSE และ JSON-RPC และทำงานควบคู่ไปกับ Model Context Protocol (MCP) ของ Anthropic แต่เน้นที่การสื่อสารระหว่าง AI Agents โดยเฉพาะ แทนการใช้งานเครื่องมือ Google ได้จับมือกับบริษัทชั้นนำกว่า 50 แห่ง เช่น SAP, Salesforce, LangChain, MongoDB และ Deloitte เพื่อผลักดันการนำ A2A ไปใช้ในวงกว้าง โดยเฉพาะในแอปพลิเคชันระดับองค์กรขนาดใหญ่ คาดว่ารุ่นใช้งานจริงจะพร้อมให้บริการภายในปลายปี 2568 นี้
นอกจากนี้ Google ยังเปิดตัว Agent Development Kit (ADK) ใน Vertex AI ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างระบบ multi-agent ได้ง่ายขึ้น โดยบางแหล่งระบุว่าสามารถทำได้ด้วยโค้ดเพียง 100 บรรทัดเท่านั้น การเปิดตัวครั้งนี้ได้รับการจับตาจากวงการเทคโนโลยี โดยหลายฝ่ายมองว่า A2A อาจเปรียบได้กับ “อินเทอร์เน็ตสำหรับ AI Agents” ที่จะเปลี่ยนวิธีการทำงานของ AI เช่น การที่ AI จัดตารางงานจากผู้ให้บริการรายหนึ่งสามารถประสานงานกับ AI ด้านโลจิสติกส์จากอีกรายได้อย่างลงตัว ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการที่ซับซ้อนข้ามองค์กร
การเปิดตัว A2A เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ของ Google ที่ต้องการเสริมความแข็งแกร่งในตลาด AI และคลาวด์คอมพิวติ้ง เพื่อแข่งขันกับคู่แข่งอย่าง Microsoft และ Amazon แม้ว่ารายละเอียดการใช้งานจริงจะยังคงถูกเปิดเผยเพิ่มเติม แต่โปรโตคอลนี้มีแนวโน้มที่จะช่วยลดความยุ่งยากในการเชื่อมต่อระบบ และเพิ่มประสิทธิภาพในอุตสาหกรรมที่พึ่งพาการทำงานอัตโนมัติด้วย AI อย่างมาก
A2A ไม่เพียงแต่เป็นนวัตกรรมที่เชื่อมโยงเทคโนโลยี แต่ยังเป็นก้าวสำคัญที่อาจกำหนดอนาคตของการทำงานร่วมกันระหว่าง AI ในโลกดิจิทัลยุคใหม่นี้ คงต้องจับตาดูว่าเมื่อถึงเวลานำไปใช้งานจริง A2A จะพลิกโฉมวงการเทคโนโลยีได้มากน้อยแค่ไหน
ที่มาข้อมูล: Google