ไมโครซอฟท์ยืนยัน Windows Update ไม่ทำ SSD เสียหาย ด้าน Phison ทดสอบซ้ำ 4,500 ชั่วโมง ยืนยันไม่พบความเกี่ยวข้อง

จากกระแสข่าวลือในญี่ปุ่นที่ระบุว่าการอัปเดต Windows 11 24H2 เช่น KB5063878 และ KB5062660 ทำให้ SSD หรือ HDD เสียหาย โดยเฉพาะเมื่อเขียนข้อมูลปริมาณมาก (เกิน 50GB) บนไดรฟ์ที่ใช้งานเกิน 60% นั้น ล่าสุด Phison Electronics Corporation ผู้ผลิตคอนโทรลเลอร์ SSD ชั้นนำ ได้ออกมาชี้แจงว่าไม่พบหลักฐานว่าการอัปเดต Windows เป็นสาเหตุของปัญหาดังกล่าว

นอกจากนี้ทาง Phison ยังได้ทำการทดสอบอย่างเข้มข้นกว่า 4,500 ชั่วโมง โดยจำลองการใช้งานหนักบน SSD ที่ใช้คอนโทรลเลอร์ของ Phison รวมถึงยี่ห้ออื่น เช่น Samsung และ Western Digital ผลการทดสอบระบุว่าไม่มีความเชื่อมโยงระหว่างการอัปเดต Windows กับความเสียหายของ SSD

สำหรับปัญหาที่ผู้ใช้บางรายพบ เช่น ไดรฟ์หายไปจากระบบหรือแสดงสถานะ RAW อาจเกิดจากความล้มเหลวของฮาร์ดแวร์ตามปกติ ปัญหาการจัดการแคช หรือปัจจัยอื่น ๆ เช่น ความร้อนสูงเกินไป

ไมโครซอฟท์เองก็ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2568 ว่าไม่สามารถจำลองปัญหานี้ได้ในระบบที่อัปเดตแล้ว และยืนยันว่าไม่มีหลักฐานว่าการอัปเดต KB5063878 หรือ KB5062660 ทำให้เกิดความเสียหายต่อ SSD หรือ HDD บริษัทกำลังติดตามรายงานจากผู้ใช้เพิ่มเติมเพื่อความรอบคอบ

คำแนะนำสำหรับผู้ใช้:

• ตรวจสอบสถานะ SSD ด้วยเครื่องมือ เช่น CrystalDiskInfo เพื่อดูสุขภาพไดรฟ์
• สำรองข้อมูลสำคัญอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันความสูญเสีย
• อัปเดตเฟิร์มแวร์ SSD จากผู้ผลิต เช่น Samsung Magician หรือ WD Dashboard
• หากพบปัญหา เช่น ไดรฟ์ไม่แสดงใน File Explorer ให้ลองใช้เครื่องมือกู้ข้อมูล หรือติดต่อฝ่ายสนับสนุนของ Microsoft และผู้ผลิต SSD

Phison และ Microsoft ขอให้ผู้ใช้หลีกเลี่ยงการแพร่กระจายข้อมูลที่ไม่ได้รับการยืนยัน เพื่อป้องกันความเข้าใจผิด และแนะนำให้ติดตามข้อมูลจากช่องทางอย่างเป็นทางการของทั้งสองบริษัท

ข้อมูล: Beeping Computer, Wccftech